วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ก้าวแรกในธุรกิจเครือข่าย (2)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


ผู้แนะนำ
               ผู้แนะำนำท่านเข้าสู่ธุรกิจนี้สามารถจะเป็นแรงช่วยเหลือ  สนับสนุนท่านได้อย่างมากมายมโหฬาร   โทรศัพท์หาเขาทำความคุ้นเคยกันบ้าง  เพราะหากเขาแนะนำท่านเข้าสู่ธุรกิจ ท่านต้องพูดคุยกับเขาแทบทุกวันเป็นระยะ  เวลาอีกหลายปีทีเดียว  ท่านสามารถติดต่อเขาไ้ด้สะดวกหรือเปล่า  พูดจากันรู้เรื่องหรือไม่?



การอบรม
               การอบรมมีความสำคัญหลายประเด็น  ท่านต้องศึกษาว่า  บริษัทที่ท่านกำลังจะสมัครเข้าร่วมธุรกิจนั้น  มีแนวทาง  วิธีการ หรือ  หลักการอย่างไร  ในการดำเนินธุรกิจของสมาชิกใหม่   หากบริษัทไม่มี ถามผู้ที่กำลังแนะนำท่านเขามีแนวทางอย่างไร?  และหากผู้สนับสนุนท่านไม่มี  ผมขอแนะนำท่านได้พิจารณาบริษัทอื่นอย่างจริงจัง  ธุรกิจเครือข่ายคือ การถ่ายสำเนาผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้จำเป็นต้องมีระบบในการแนะนำผู้สมัครใหม่ให้สามารถดำเนินงานได้อย่างชัดเจน  หากตัวบริษัทไม่มีแนวทาง  หากผู้แนะนำท่านไม่มีแนวทางท่านจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?   จากนั้นศึกษาหลักสูตรการอบรม  อุกกรณ์ส่งเสริมการขาย  สิ่งพิมพ์  อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์วารสารของบริษัทว่าสามารถช่วยเหลือ  แนะแนว  ให้ความรู้  สนับสนุนการดำเนินงานของท่านได้หรือไม่?   หากมี...ท่านยังคงต้องทำในส่วนของท่านคือ  เข้าอบรม ฟัง อ่าน ดู  และทดลองปฏิบัติ...




ความมุ่งมั่น
              ผมพูดและเขียนเรื่องนี้มาในปริมาณมาก  แต่อยากจะพูดให้ดังที่สุดถึงนักธุรกิจเครือข่ายทุก ๆ คน   ท่านจะไม่รวยในช่วงเวลาข้ามคืน!  หากมีใครพยายามบอกท่านอย่างอื่น  แสดงว่าเขาพูดเท็จ  มีคนน้อยมากที่สามารถร่ำรวยได้ในเวลา  1-2  เดือน  เป็นไปได้แต่ยากและยากมาก ๆ สำหรับรายได้อย่างสม่ำเสมอ  ผู้ที่จะร่ำรวยในธุรกิจนี้อย่างมั่นคงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลกต้องใช้เวลาเป็นแรมปีทั้งนั้น   การก่อสร้างธุรกิจนี้ใช้เวลาในการชักจูงคนเข้าสู่ธุรกิจ และใช้เวลาในการพัฒนาเขาเหล่านั้นให้เป็นผู้กระจายสินค้า  ใช้เวลาอีกมากมายในการพัฒนาเขาขึ้นสุ่ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ  หากท่านเข้าร่วมธุรกิจกับบริษัทเครือข่าย  ผมขอแนะนำให้ท่านได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ธุรกิจนี้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย  6  เดือน  แต่ตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับผมแล้วคือ  2 ปี
             บางท่านจะเริ่มได้กลิ่นไอของความสำเร็จภายในระยะเวลาเพียง  3 - 4  เดือน  แต่การก่อตั้งบริษัท หรือธุรกิจที่มั่นคงใช้เวลาเป็นปี  ท่านจะสามารถมีผลกำไรได้ในระยะเวลาเพียง  1  อาทิตย์   แต่รายได้ในระดับที่เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงนั้นใช้เวลาเป็นปี  เหมือนกับการเรียนรู้ธุรกิจทุก ๆ ชนิด  ท่านต้องใช้เวลาเรียนรู้ธุรกิจ
             ผู้สมัครใหม่มักเดินหลงทาง   หลาย ๆ คนคิดว่าธุรกิจนี้เป็นงานอดิเรก  เพราะไม่มีการลงทุน  ไม่มีข้อแม้  ไม่มีการสอบสัมภาษณ์  คัดเลือก   ฯลฯ  หากท่านเริ่ม  ธุรกิจนี้ด้วยความคิดว่าท่านไม่ได้เสียอะไร  สถิติของผมระบุว่าท่านจะล้มเหลว  ท่านต้องดำเนินธุรกิจในลักษณะความคิดประหนึ่งว่าท่านได้ลงทุนไปเป็นเงินอย่างน้อย  1  ล้านบาท  และดำเนินงานในการบริหารงาน ในลักษณะเช่นเดียวกับการดำเนินธุรกิจทั่ว ๆ ไป  ท่านทุ่มเทมากเท่าใด  ผลตอบแทนท่านจะมากเ่ท่านั้น
             ท่านได้พบกับสินค้าที่ท่านชอบ  บริษัทที่มีผู้นำที่ดี  ผู้แนะนำที่สามารถสนับสนุนท่านได้   แนวทางการอบรมและเครื่องมือต่าง ๆ ที่สามารถสนับสนุนท่านได้  และท่านมีความมุ่งมั่นและจะทุ่มเทให้กับธุรกิจเครืือข่ายของท่าน เป็นระยะเวลา  6  เดือนเต็ม   อย่าโลภมากและคิดว่าจะแนะนำคนทั้งโลกเข้าสู่ธุรกิจนี้  แต่จงกำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้   น่าจะเป็นการพูดคุย และพยายามแนะนำคนเข้าสู่ธุรกิจสักอาทิตย์ละ  2  คน  ลงท้ายด้วยการสปอนเซอร์สัก    1-2  คน  ในเดือนแรก  ซึ่งหมายความว่าท่านอาจต้องพูดกับคนมากกว่า  2  คนต่อสัปดาห์ ก่อนที่อัตราส่วนการประสบความสำเร็จของท่านจะพัฒนาดีขึ้น แล้วจึงค่อยปรับเป้าหมายของท่านให้มีระดับสูงขึ้น  เมื่อท่านเริ่มมีความมั่นใจยิ่งขึ้น

             หากท่านมีความมุ่งมั่นในการจะประสบความสำเร็จ
             หากการยอมแพ้ไม่ใช่ทางเลือก
             หากท่านเดินหน้าเป็นอย่างเดียว  ไม่มีคำว่าถอยหลัง
             หากท่านคิดว่าการย้ายภูเขาต้องเป็นไปได้
             หากชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งเดียวที่ท่านจะยอมรับ


     ขอให้ท่านได้ทราบว่าท่านสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย!



สวัสดี



วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ก้าวแรกในธุรกิจเครือข่าย (1)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน

                เป็นที่ทราบกันดีอยู่ทั่วไปว่า  สมาชิกที่สมัครเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายจะประสบกับความล้มเหลวประมาณ  95%    ในขณะที่ตัวเลขดังกล่าวมีสาเหตุมาจากสถานการณ์ต่าง ๆ มากมาย  แต่สาเหตุหลักซึ่งโดดเด่นกว่าสาเหตุอื่น ๆ ก็คือ  สมาชิกส่วนใหญ่เริ่มการดำเนินธุรกิจ  หรือถูกชักชวนให้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายโดยบุคคลที่ไม่มีความรู้  ไม่มีประสบการณ์  ไม่ได้ผ่านการอบรม หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ  ผู้ที่ไม่ใช่มืออาชีพในธุรกิจนี้


                เมื่อผู้ที่ไม่ได้ผ่านการอบรมพยายามจะแนะนำสมาชิกใหม่ให้ดำเนินธุรกิจ  อะไรจะเกิดขึ้น?   คำตอบนั้นง่ายมากและชัดเจนคือ  เราจะได้สมาชิกที่ไม่ได้รับการอบรมจำนวนนมาก  นักธุรกิจทุกคนทราบดีว่าการจะดำเนินธุรกิจให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั้น  เราจะต้องเรียนรู้จากใครสักคน  ที่ใหนสักแห่ง
                สมาชิกส่วนใหญ่ถูกแนะนำให้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายโดยญาติสนิทมิตรสหาย  ซึ่งมีผลที่ดีมากในระยะยาว  หากแต่เราควรจะได้ก้าวถอยหลัง  และพิจารณารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนด้วยตัวของเราเอง  ถามตัวเองว่า   "เรายังคงต้องการสมัครเข้าบริษัทนี้หรือไม่  หากผู้แนะนำไม่ใช่ญาติ หรือเพื่อนของเรา?"

ตัวบริษัท
               ตรวจสอบบริษัท  ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ดำเนินธุรกิจมากี่ปีแล้ว?  สำนักงานใหญ่หน้าตาเป็นอย่างไร?  สามารถโยกย้ายได้ภายใน  2-3  ชั่วโมงหรือเปล่า?  พนักงานตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว  หรืออึดอัดต้องรอถามคนโน้นคนนี้?  แผนการตลาดเป็นอย่างไร  สมาชิิกเป็นผู้ได้รับผลตอบแทนหรือบริษัทกักตุนกำไรไว้หมด?  บริษัทรับฟังความคิดเห็นของท่านในฐานะสมาชิกหรือไม่?  มีความจริงใจหรือไม่? มีนโยบายและกำลังดำเนินนโยบายในการดำเนินธุรกิจระยะยาวอย่างไร?  ประํธานบริษัทมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจหรือไม่?  ดำเนินธุรกิจอย่างสง่าผ่าเผย หรือหลบ ๆ ซ่อน ๆ  ท่านสามารถเข้าถึงตัวผู้บริหารได้หรือไม่?  ผู้บริหารมีตัวตนหรือไม่?  ประธานบริษัทมีประวัติการบริหารธุรกิจอย่างไร?  มีฐานะอย่างไร?  เขาล้มลุกคลุกคลานมาตลอดหรือประสบความสำเร็จ

ตัวสินค้า
               ตัวสินค้ามีความสำคัญต่อความสำเร็จของท่านอย่างยิ่งยวด  หากท่านไม่มีสินค้าที่มีคุณภาพ  จะไม่มีผู้ต้องการสินค้าของท่าน  ท่านสามารถหาซื้อสินค้าชนิดเดียวกันจากห้างสรรพสินค้าหรือที่อื่น  ในราคาเพียงครึ่งเดียวหรือเปล่า?
           ตัวท่านเองจะซื้อสินค้านี้หรือไม่  หากท่านไม่ได้รับผลตอบแทนจากการตลาด?  ท่านมีความตื่นเต้นกับตัวผลิตภัณฑ์  หรือไม่?  ท่านสามารถอธิบายผลิตภัณฑ์ แก่ลูกค้าด้วยความกระตือรือร้นมั้ย?  สินค้าของท่านสามารถให้ประโยชน์แก่ลูกค้า  ซึ่งเขาไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่นหรือเปล่า?



สวัสดี    

            

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลูกทีมไม่ชอบขาย ลูกทีมไม่ชอบทำงาน (2)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                 ลองถามคำถามเหล่านี้กับตัวเอง...
1. มีอะไรที่ท่านไม่ได้ทำ?
                 เรามักมองดูลูกทีมว่าเขากำลังไม่ทำอะไรแต่ไม่มองดูตัวเราเอง  ในความเป็นจริงนั้น  เราไม่ได้ถ่ายทอดวิธีการทำงาน  แต่หวังว่าลูกทีมจะทำงานโดยที่เรานั่งเฉย ๆ
                 ท่านกำลังควานหาผู้มุ่งหวังอยู่ทุกขณะหรือเปล่า?
                 ท่านกำลังแนะนำผลิตภัณฑ์อยู่หรือเปล่า?
                 ท่านกำลังแนะนำธุรกิจหรือเปล่า?
                 ท่านติดตามผลหรือเปล่า?
                 ท่านกำลังฝึกอบรมลูกทีมหรือเปล่า?
                 ท่านกำลังสร้างบรรยากาศของความคึกคักในเครือข่ายหรือเปล่า?

                 ท่านกำลังนั่่งเฉย ๆ เหมือนกันหรือเปล่า?
                 ลองพิจารณาดูว่าท่านกำลังไม่ทำอะไร? และท่านจะพบว่าท่านกำลังถ่ายทอดการทำงานในลักษณะเดียวกันสู่ลูกทีม



2. มีอะไรที่ยังขาดอยู่?
                 อะไรที่กำลังขาดอยู่ในการดำเนินงานสู่ความสำเร็จ  ผู้มุ่งหวัง?  กิจกรรม?  เป้าหมาย?  ความเชื่อมั่น?  การติดตาม?  การพัฒนา?
                 ลูกทีมท่านได้รับการอบรมที่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า?
                 ลูกทีมท่านกำลังได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็นจากท่านหรือไม่?
                 ลูกทีมท่านมีเครื่องมือในการทำงานหรือไม่?
                 ลูกทีมมีระบบในการแนะนำผลิตภัณฑ์ และธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่
                 ท่านสามารถสื่อสารกับลูกทีมด้วยความชัดเจน และความน่าเชื่อถือหรือไม่
                 ท่านเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ได้โดยการกำหนดระบบและวิธีการทำงาน  โดยการทำให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อลูกทีมจะสามารถทำตามไ้ด้
                 หลาย ๆ กรณีที่ลูกทีมไม่ทำงานเพราะขาดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

3. ลูกทีมมีเป้าหมายที่ชัดเจนหรือไม่? 
                 ท่านมีกิจกรรมอะไรในการทำให้ทีมงานมีเป้าหมายที่ชัดเจน  มันคือเป้าหมายที่ลูกทีมจะต้องเล็งและยิง
                 ในธุรกิจนี้ไม่มีอะไรที่จะกำหนดเป้าหมายให้ลูกทีมได้ดีเท่ากิจกรรม  กิจกรรมที่ใช้กันประจำคือ  การให้รางวัลประกาศความสำเร็จของลูกทีมที่สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย
                  ตั้งเป้าหมายและกำหนดระยะเวลาให้ทีมงานในการสนับสนุนชี้แนะ และช่วยเหลือ  ให้รางวัล  ประกาศความสำเร็จของลูกทีมเมื่อเขาทำมันสำเร็จ

4. ท่านกำลังจับมือหรือปล่อยมือ?  
                  หากท่านต้องการให้ทีมงานมีความกระตือรือร้นท่านต้องจุดไฟให้ติด
                  สมาชิกทั่วไปในธุรกิจนี้  จะชักจูงคนเข้าสู่ธุรกิจแล้วรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
                  ผู้นำในธุีรกิจนี้  แนะำนำคนเข้าสู่ธุรกิจแล้วลงมือทำให้เกิดผลลัพธ์
                  เราจำเป็นต้องคล้องแขนลูกทีม  และทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมั่นและมุ่งมั่น  มองเห็นภาพของความสำเร็จในธุรกิจร่วมกัน  ไม่ใช่ปล่อยมือลูกทีมหลังจากการอบรม และหวังว่าเขาจะสามารถเห็นสัจธรรมด้วยตนเอง   ให้กำลังใจลูกทีม  วาดภาพแห่งความสำเร็จร่วมกัน  และคล้องแขนลูกทีมไว้ให้แน่น
                  ให้แนวทางการทำงานอย่างเป็นระบบ  และอย่างเป็นขั้นตอน  คล้องแขนลูกทีมแล้วร่วมเดินทางนำพาลูกทีมสู่ความสำเร็จทีละขั้น ๆ...

5. ท่านกำลังทำให้ลูกทีมต้อง...พึ่งพาท่านตลอดไปหรือเปล่า?
                  ผู้นำหลาย  ๆ คน ในธุรกิจนี้ต้องการการยอมรับต้องการเป็นดาวเด่น  โดยการดำเนินการทุกอย่างให้แก่ลูกทีม  จึงทำให้ลูกทีมต้องพึ่งพาแม่ทีมผู้นั้นไปตลอดอายุการงาน
                  ตำแหน่งของท่านและลูกทีมคือ  ผู้แทนจำหน่ายอิสระ  บริษัทแทบทุกบริษัทมีแนวทางในการพัฒนาสมาชิกให้สามารถทำงานอย่างอิสระตามใจปราถนา   ตัวบริษัทและแม่ทีมเป็นผู้ยืนอยู่หลังเวที ช่วยเหลือสนับสนุนให้ลูกทีมดำเนินงานสู่ความสำเร็จในทิศทางที่ถูกต้องที่สุด
                  แม่ทีมจะต้องสร้างทีมงานโดยสร้างประสิทธิภาพของลูกทีม  และนี่คือสาเหตุที่ทำไมเราจึงต้องมีการอบรมเพื่อพัฒนาสมาชิกในระดับต่าง ๆ
                  ฉะนั้น หากลูกทีมของท่านไม่ทำงานเราสามารถแก้ไขได้  2  วิธี
                  1. ทำตัวเป็นผู้นำที่ดี  ให้การสนับสนุน  การชี้นำ  สละแรงและเวลา  ทำงานกับผู้มีความมุ่งมั่นให้เต็มที่
                  2. หากท่านกระทำดังกล่าวแล้ว  ลูกทีมยังไม่ทำอะไร...ทำใจให้ได้  แล้วมองหาผู้ที่สมควรจะได้รับความช่วยเหลือ

        "มีคนกล่าวว่า  การออกลูกใหม่สักคนนั้นง่ายกว่าการทำให้คนตายฟื้นคืนชีพ"




สวัสดี



วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลูกทีมไม่ชอบขาย ลูกทีมไม่ชอบทำงาน (1)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                สมาชิกหลาย ๆ คน  ในธุรกิจนี้ยังไม่เข้าใจว่าการดำเนินธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การขายสินค้า  หากแต่เป็นการสร้างเครือข่ายกระจายสินค้า หรือบริการที่มีพื้นฐานมาจากการแนะนำ  แนะนำโดยการเล่าประสบการณ์ที่ท่านได้พบกับสินค้าที่มีคุณภาพมหัศจรรย์ด้วยตนเอง  และแนะนำด้วยความต้องการให้ผู้อื่นได้รับประสบการณ์ที่ดีนั้นด้วยสินค้า หรือบริการนั้นดีจริงก็จะเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติ




                ลองนึกภาพดู...คืนวันเสาร์ท่าน และภรรยาได้ทดลองทานอาหารแห่งใหม่เมื่อเข้าไปในร้าน  พนักงานพาท่านไปนั่งโต๊ะมุมสงบด้วยกิริยายิ้มแย้มแจ่มใส  พร้อมบอกกับท่านว่าวันนี้เรามีอาหารบุฟเฟต์นานาชาติกว่า  200  ชนิด  รวมทั้งของหวานกว่า  30  ชนิด  เครื่องดื่มนั้นฟรี  ราคาคนละ  350 บาท  หากมา  2  คน  คนที่  2  ทานฟรี

                โอ้โห!...เป็นข้ิอเสนอที่ยอดเยี่ยมมาก รสชาติอาหารเอร็ดอร่อยท่านกลับบ้านด้วยความพอใจ  พอไปทำงานวันจันทร์ท่านจะคุยอะไรกับเพื่อนฝูง  เรื่องดินฟ้าอากาศ หรือเรื่อง อาหารมี้อค่ำ  200  กว่าชนิด และรสชาติของมัน  พุดถึงการบริการที่ประทับใจ และพูดถึงข้อเสนอ 2  ท่านจ่าย  1...?

                แล้วลองนึกถึงภาพการเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย  กับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งขายผลิตภัณฑ์คุณภาพในราคาที่เหมาะสม  แล้วลูกทีมของท่านป่าวประกาศให้ทุก ๆ คนได้ทราบถึงผลิตภัณฑ์ที่มหัศจรรย์นั้นหรือไม่  ไม่เลย!   เขารู้สึกกระดาก  เขาไม่ต้องการให้ญาติและเพื่อนฝูงคิดว่าเขากำลังหากำไรจากเพื่อนฝูง  เขาจึงเก็บไว้เป็นความลับ  เขานึกในใจว่าฉันขายไม่เป็น  ฉันไม่ชอบขาย

                 สิ่งที่ขาดหายไป คือ  ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์  ลูกทีมของท่านยังไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์เพียงพอ  เขายังมองเห็นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นในระดับเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่ว ๆไป  เขายังตื่นเต้นไม่พอ  เขายังไม่พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจ  บริการเขาในฐานะผู้ให้บริโภคให้ดีที่สุด  ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แก่เขาให้มากที่สุด  ในระยะนี้แม่ทีมต้องเป็นผู้ช่วยเหลือแนะนำผลิตภัณฑ์แก่บุคคลที่เขารู้จัก  จนกว่าเขาจะมีความตื่นเต้น และความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

                 แล้วลูกทีมไม่ทำงานล่ะ?

                 พวกเราล้วนเคยมีประสบการณ์นั้นมาแล้ว  เราตื่นเต้นดีใจเมื่อสามารถรับสมัครสมาชิกใหม่  แล้วคิดว่าคราวนี้แหละต้องรวยแน่ ๆ วันเวลาผ่านไป...สมาชิกเหล่านี้นิ่งสนิท  ไม่มีการเคลื่อนไหว  ไม่มียอดสั่งซื้อ  ไม่มีสมาชิกใหม่  ฟังดูคุ้น ๆ มั้ยครับ

                 ผมมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย  ข่าวร้ายก็คือ  ความผิดส่วนหนึ่งมาจากตัวท่านเอง  ข่าวดีก็คือ มันเป็นสถานการณ์ที่แก้ไขได้

                 หากท่านอยู่ในธุรกิจเครือข่าย  ท่านจะต้องมีลูกทีมลักษณะนี้เกิดขึ้นในเครือข่ายของท่านอย่างแน่นอน  มันมาพร้อมกับการเป็น  "ผู้นำ"  ในธุรกิจ  การเป็นผู้นำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่การเป็น "ผู้นำ"   นั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย   ท่านต้องเป็น  "ผู้นำ"  จึงจะสามารถประสบความสำเร็จ




สวัสดี




วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผู้นำจะหาได้ที่ใหน? จะพัฒนาเขาอย่างไร? จะสอนอะไรเขา? (4)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                 ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อทอมได้พบกับ  แพร์เดส  (Paredes)   ซึ่งเขาพูดว่า...

                 "...ทอม  คุณนี่โง่บรรลัย..."

                 "...หากคุณพยายามจะสอนและช่วยเหลือทุกคนที่พูดว่า  เขาต้องการประสบความสำเร็จ  คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จ เพราะ การพูดนั้นเป็นสิ่งง่าย!...

                 แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า  เราควรจะเชื่อใครและช่วยใคร  ผู้แทนจำหน่ายพูดว่า ต้องการประสบความสำเร็จเหมือนกันทุกคน

                 แพร์เดสตอบว่า  "...ง่ายนิดเดียวลองทดสอบความตั้งใจของเขาสิ..."

                 ณ วินาทีนั้น ทอมเห็นสัจธรรม  เขาเสียเวลามา  15  ปี  พยายามช่วยเหลือคนทุกคนที่บอกว่าต้องการประสบความสำเร็จ เขาไม่เคยเลือกว่าเขาจะช่วยเหลือใคร  ความเีพียรพยายามของเขาจึงกระจัดกระจายไปทั่ว  ขยันแต่ไม่มีความชัดเจน

                 ทอมถามว่า "...แล้วจะทดสอบเขาได้อย่างไร..."

                 แพร์เดสตอบคำถามง่าย ๆ อีกตามเคยว่า  "...ให้หนังสือเขาไปอ่าน  1  เล่มแล้วบอกกับผู้แทนจำหน่ายที่ต้องการประสบความสำเร็จผู้นั้นว่าอีก  3  วัน  มาเจอกันแล้วมาคุยกัน  และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น..."

                 สมมุติว่าท่านสปอนเซอร์ผมเข้าสู่เครือข่าย  ผมบอกอยากเป็นผู้นำ  อยากประสบความสำเร็จมีรายได้  5-6  หลักต่อเดือน  ทุก ๆ เดือน  ท่านช่วยผมได้มั้ย  ท่านเพียงตอบว่า...

                 "...ได้นี่หนังสือ  100 หน้า ที่จะทำให้คุณเข้าใจธุรกิจเครือข่าย  ดียิ่งขึ้น วันนี้วันจันทร์  เรามาพบกันวันพฤหัสฯ  แล้วมาหารือกันถึงเนื้อหาในหนังสือ  ผมจะได้บอกคุณถึงแนวทางการก่อสร้างธุรกิจ...

                 พอถึงวันพฤหัสฯ  ผมคงโทร  หาท่านแล้วพูดว่า

                 เอ่อ  วันจันทร์ผมไม่ได้อ่าน  เพราะลูกสอบ  วันอังคารต้องสอนหนังสือลูก  วันพุธมีงานด่วนต้องอยู่เย็นกลับบ้านดึก  พอวันพฤหัสบดีญาติมาเยี่ยมจากต่างจังหวัด  ผมเลยยังไ่ม่ได้อ่านเพียงพลิก ๆ ดูเท่านั้นเอง..."



                 เรามาแปลให้เป็นภาษาธุรกิจในการก่อสร้างผู้นำของท่านให้ชัดเจนดีกว่า

                มันหมายความความว่า...หากผมไม่มีความเพียรพยายามหาเวลาที่จะลงมืออ่านหนังสือเล่มนี้ได้  โอกาสในการที่ผมจะหาเวลาลงมือดำเนินงาน  ควานหาผู้สนใจธุรกิจ  ชักจูงและนำพาผู้มุ่งหวังเขาขเข้าสัมมนา  สละเวลาและเงินเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง  เรียนรู้ธุรกิจ  เดินทางเพื่อขยายตลาดนั้นไม่มีเลย!

                มันไม่ได้หมายความว่า...ผมจะไม่มีทางเป็นผู้นำได้  มันเพียงแต่หมายความว่าขณะนี้  วินาทีนี้  วิถีชีวิตผมยังไม่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ  มันไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนเลว  มันเพียงแค่หมายความว่า  ขณะนี้  วินาทีนี้  ผมยังไม่ต้องการเป็นผู้นำจริง ๆ เท่านั้นเอง!

               ขณะนี้เราสามารถกำหนดตัวบุคคลจากบุคคลธรรมดา ๆ จากผู้แทนจำหน่ายธรรมดา ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษได้แล้ว  บุคคลเพียง  2-3  คนนี้แหละคือ บุคคลที่เราจะสั่งสอน  อบรมและช่วยเหลือให้เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ

               แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่  3.  จำขั้นตอนที่ 3 ได้มั้ย?...ผมทวนให้ฟังอีกครั้ง...

               ขั้นตอนที่ 1. ให้คำจำกัดความของผู้นำ...(เรามีอยู่  3  ข้อ)

               ขั้นตอนที่ 2. เราจะหาผู้นำได้จากใหน...(ผู้ที่ผ่านการทดสอบ)

               ขั้นตอนที่ 3. แล้วเราจะสอนอะไรให้่กับผู้นำของเรา?

               อันนี้เป็นคำถามที่สำคัญมาก...

                          ผู้นำรู้อะไรที่ผู้แทนจำหน่ายธรรมดาไม่รู้?

               ขณะที่ท่านได้สอนผู้แทนจำหน่ายของท่าน ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายที่ดีแล้วหมายความว่าท่า่นได้สอนเขา

               * ทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
               * ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวบริษัท
               * ให้จงรักภักดีต่อองค์กร
               * ให้สร้างเครือข่าย
               * ให้มองโลกในแง่ดี
               * ใ้ห้ควานหาสมาชิกอย่างมืออาชีพ
               * ให้แนะนำผลิตภัณฑ์ และขายปลีกตลอดเวลา
               * ให้ทำงานให้เป็นระบบ ให้เลียนแบบได้
               * ให้ถ่ายสำเนาตนเอง...ฯลฯ

               ท่า่นสอนสิ่งที่สำคัญเหล่านี้  แก่ผู้แทนจำหน่ายของท่านหมดแล้ว  ท่านมีผู้แทนจำหน่ายที่ดีในเครือข่ายจำนวนมากแต่ท่านไม่มีผู้นำ
               ลองคิดดูว่า...ท่านกำลังจะสอนผู้แทนจำหน่ายของท่านให้เป็นผู้นำที่ดี ท่านจะสอนอะไร...?

                           ** หากท่านยังไม่เข้ารับการอบรม!!!**  

ขอให้ทุท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ


สวัสดี


           

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผู้นำจะหาได้ที่ใหน? จะพัฒนาเขาอย่างไร? จะสอนอะไรเขา? (3)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                และแล้วเราก็มาถึง การสร้างผู้นำที่จะทำให้ธุรกิจเครือข่ายของเราประสบความสำเร็จกัน




ขั้นตอนการสร้างผู้นำมี  3  ขั้นตอน

                ขั้นตอนที่  1.  นั้นสำคัญมาก  ก่อนีท่เราจะออกไปควานหาผู้นำเราควรทราบว่าผู้นำนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

                ทอม มีคำจำกัดความของผู้นำอยู่  3  ข้อ  เป็นคำจำกัดความที่ช่วยให้เขารู้ว่าเขากำลังควานหาบุคคลที่มีลักษณะอย่างไร?

                 อย่างแรก  :  ผู้นำ คือบุคคลที่พร้อมจะเป็นนักเรียน...เรียนรู้การดำเนินธุรกิจ  อ่านคู่มือ  อ่านหนังสือ เข้าร่วมประชุมเครือข่าย  เข้าร่วมสัมมนา  เข้ารับการอบรม  เราจะเห็นบุคคลเหล่านี้อยู่ใกล้ชิดกับผู้นำในเครือข่ายหวังจะเรียนรู้วิธีการทำงานที่ดีขึ้น

                 อย่างที่สอง  :  อธิบายค่อนข้างยากแต่ง่ายต่อการควานหา!

                 - สมมุติว่าท่านต้องเดินทางไปต่างจังหวัด  ผู้นำคือผู้ที่จะรับผิดชอบสัมมนานั้น ๆ ดูแลการจัดห้องประชุมการวางผลิตภัณฑ์ต้อนรับสมาชิก  จ่ายค่าห้องประชุม  และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้การสัมมนานั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น  โดยที่ท่านไม่ต้องคอยกังวล  และโทรศัพท์กลับมาสอบถามทุก ๆ  10  นาที

                 - ผู้นำคือ ผู้ที่ดำเนินธุรกิจของเขาโดยไม่ต้องรอคอยการผลักดัน และการตรวจสอบจากท่าน

                 อย่างที่สาม  :  ผู้นำคือ ผู้เผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหา

                 หากปัญหาทุกปัญหาถูกส่งทอดมายังท่านไม่ว่าเล็กหรือใหญ่โดยไม่มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเอง  ขอให้ท่านระลึกไว้เถิดว่า  ท่านมีเพียง   "ผู้แทนจำหน่าย"  ในเครือข่าย...ท่านยังไม่มีผู้นำ!

                 เรารู้แล้วว่าผู้นำหน้าตาเป็นอย่างไร?

                 มาถึงขั้นตอนที่  2  แล้วเราจะหาผู้นำได้จากที่ใหน?  ง่ายนิดเดียวเพราะมี  2  วิธี :-

     วิธีที่ 1. โดยการขโมยจากบริษัทอื่น ๆ !

                -  ให้ข้อเสนอที่ดีกว่าบริษัทเดิม  "...ผมให้คุณมากกว่าบริษัทเดิม  100 บาท..."  ผู้นำนั้นก็จะละทิ้งความจงรักภักดีต่อองค์กร และตามท่านมาเพื่อผลประโยชน์ที่มากขึ้น  ปัญหาคือ...อะไรจะเกิดขึ้น  หากมีคนเสนอผลประโยชน์ที่มากกว่าคุณ?

                   โอ๊ย!...เจ็บ...หากผู้นำสามารถขายตัวเองได้  1  ครั้ง  เขาต้องขายตัวเองได้อีกแน่นอน

     วิธีที่ 2. คือ การสร้างผู้นำจากสามัญชนทั่ว ๆ ไป

                -  เราจะต้องควานหาผู้นำซึ่งขณะนี้ยังไม่ใช่ผู้นำ  แลัวสอนเขาถึงวิธีการในการที่จะเป็นผู้นำ  เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถอย่างยิ่งยวด

                 หากเขาไม่ใช่ผู้นำในขณะนี้  เขาก็จะมีรูปร่างหน้าตาบุคลิกลักษณะเหมือนผู้แทนจำหน่ายทั่ว ๆ ไป  แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรจะใช้เวลากับใคร?  เราจะหลีกเลี่ยงการใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร?  เราจะไม่เสียเวลากับคนที่ผิดได้อย่างไร?

                 ทอมเสียเวลาถึง  15  ปี  ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ท่านกำลังประสบอยู่

                 ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อทอมได้พบกับ  แพร์เดส  (Paredes)   ซึ่งเขาพูดว่า...

                 "...ทอม  คุณนี่โง่บรรลัย..."



สวัสดี




วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผู้นำจะหาได้ที่ใหน? จะพัฒนาเขาอย่างไร? จะสอนอะไรเขา? (2)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


               ขณะที่  ทอม และ จอห์น เดินทางเพื่อไปพักผ่อนที่บ้านของจอห์น  จอห์นได้รับโทรศัพท์จากเดวิด  ผู้แทนจำหน่ายคนแรกของจอห์น

               เดวิดพูดว่า "...ผมเพิ่ง  ติดต่อกับเพื่อนคนหนึ่งอยู่ที่สก็อตแลนด์  หากจากนี้ประมาณ  8  ชั่วโมง ผมจะดีใจมากหากคุณสามารถไปพูดกับเขา  เขาบอกว่าเขาอาจจะสนใจหรือไม่สนใจ  แต่เขาจะพิจารณาธุรกิจหากเราเดินทางไปพบเขา"

               จอห์ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก "...8  ชั่วโมง?..."

                ทอมตอบว่า..."บอกเดวิดไม่มีปัญหา  เรากำลังเดินทางไป  ขอให้บอกที่นัดพบ..."

                ทอมและจอห์นเดินทางไปสก็อตแลนด์   โดยไม่ได้แวะเข้าบ้านพักแต่อย่างใด..."เราบ้าไปแล้วหรือนี่?  เรากำลังขับรถ  8  ชั่วโมง  เพื่อไปพบผู้มุุงหวังที่อาจจะมาหรือไม่มาตามนัดด้วยซ้ำไป!..."

                ทอมตอบว่า..."ไม่เป็นไร  เราไม่ได้ขับรถเืพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจ  เราขับรถ  8  ชั่วโมงเพื่อสนับสนุนเดวิด  เราต้องการบอกกับเดวิดว่า  เนื่องจากเขาต้องการจะเป็นผู้นำ  เราจะช่วยเขาจนถึงที่สุดและอย่างเต็มความสามารถ  จนเขาได้เป็นผู้นำ  ไม่สำคัญว่าผู้มุ่งหวังของเขาคนนี้  จะมาตามนัดหรือไม่  มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ  เราขับรถ  8  ชั่วโมง  เพื่อแสดงให้เดวิดเห็นว่า  เรามีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือเดวิดต่างหาก..."

                นี่คืือข้อแตกต่างของเป้าหมายที่ผมกำลังพูดถึง  เรากำลังพุ่งเป้าไปที่  การสร้างผู้นำเครือข่าย ฉะนั้นกิจกรรมเราจึงเปลี่ยนแปลงไป  และทัศนคติเราจึงเปลี่ยนแปลงไป  แนวทางการทำงานและการมองสถานการณ์เราเปลี่ยนแปลงไป  เพราะเรากำลังสร้างผู้นำ




                ตกลง...ตกลง...เรามาสร้างผู้นำกันดีกว่า...




สวัสดี;)





วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผู้นำจะหาได้ที่ใหน? จะพัฒนาเขาอย่างไร? จะสอนอะไรเขา? (1)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


               เราไม่สามารถก่อสร้างเครือข่ายได้ใหญ่โต  หากเรามัวแต่แนะนำผู้แทนจำหน่ายเข้าสู่เครือข่าย เวลาเรามีจำกัด  เราสามารถดูแลและบริการผู้แทนจำหน่าย  และปัญหาต่าง ๆ ได้เพียงไม่กี่คน

               วิธีเดียว...ที่เราจะสามารถสร้างเครือข่ายได้  ในลักษณะทวีคูณ...คือ  "การสร้างผู้นำที่สามารถ ดูแลเครือข่ายของตนเอง  ถ่ายสำเนาตนเองโดยการสร้างผู้นำ เป็นวิธีเดียวสู่การสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่"




แล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไร?

               ก่อนอื่น...เราต้องให้คำจำกัดความและความแตกต่างระหว่าง  "ผู้แทนจำหน่าย"  และ  "ผู้นำ"

               ผู้แทนจำหน่าย  นั้นไม่ถาวร  มาแล้วก็ไป  บางทีก็ทำงานสร้างเครือข่าย  บางทีก็ขายปลีก หรือไม่ก็เลิกทำธุรกิจ  ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไรเขาควรจะมีอิสระที่จะมาแล้วก็ไป  กอบโกยจากธุรกิจนี้ตามแต่เขาต้องการ  เราควารช่วยเหลือและสนับสนุนให้เขาได้รับสิ่งที่เขาต้องการ  อย่างไรก็ตามความจริง คือ  การช่วยเหลือและการสนับสนุนต่อผู้แทนจำหน่ายเหล่านั้น  ไม่ควรจะใช้เวลาของเรามากกว่า  10% - 20%

เมื่อเรามุ่งหวังไปที่การสร้างผู้นำ  วิธีการก่อสร้างธุรกิจเราเปลี่ยนไป

               มีผู้ถาม  ทอม  ซไรเตอร์  (Tom Scheriter)    ปรมาจารย์ทางธุรกิจเครือข่ายว่า  "...เคล็ดลับในการประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย คือ อะไร?..."

               ทอมจะตอบสั้น ๆ เหมือนกันทุกครั้งว่า..."ท่านเพียงต้องการสร้างผู้นำ และทำให้เขาประสบความสำเร็จเท่านั้นเอง..."

               ทอมเคยเดินทางเพื่อสร้างเครือข่ายใหม่ในประเทศอังกฤษ  จอห์น เชิอร์ช  (John  Church)   ผู้ที่เขารู้จักและชักชวนให้ดำิเนินธุรกิจมารับเขาที่สนามบิน  จอห์นได้นำพาเดวิด  ผู้มุ่งหวังคนแรกของเขามาด้วย

               ทอมได้แนะนำ ผลิตภัณฑ์และธุรกิจแก่เดวิดด้วยอาการมึนงงและอ่อนเพลียจากการเดินทาง  ซึ่งเดวิดได้ตัดสินใจสมัครสมาชิก    เดวิดไม่ได้สมัครเพราะวิธีการอันมึนงงของทอม  แต่เขาสมัครเพราะเขาเป็นเพื่อนของจอห์น  เชิอร์ช...ฉะนั้นความสัมพันธ์นั้นมีความสำคัญมากในธุรกิจนี้

   


สวัสดี



        
       

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย (3)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


               3. SPONSORING   :   การรับสมัครสมาชิกสู่เครือข่าย   นักธุรกิจเครือข่ายจำนวนมากเข้าใจว่า   การรับสมัครสมาชิก คือ เส้นชัย  ถือว่าท่านประสบความสำเร็จ  สมารถแนะนำคนเข้าสู่ธุรกิจได้  แต่ในความเป็นจริง มันคือ  จุดเริ่มต้นในการทำงานของสมาชิกผู้นั้น

                หากเขาเป็นผู้บริโภค  ท่านมีความรับผิดชอบในการแนะนำการบริโภค และการดูแลสุขภาพ  บริการจัดส่งสินค้าที่สำคัญ...ดำเนินการทุกวิถีทาง ให้เขาได้ซื้อสินค้าที่ถูกที่สุด  ถามตัวเองว่า  ท่านต้องการอะไร?  ลูกค้าที่ซื้อสินค้า   20,000  บาท.-  ครั้งเดียวแล้วเลิก  หรือซื้อสินค้า  2,000  บาททุกเดือนตลอดชีวิต





                 หากเขาต้องการดำเนินธุรกิจ  ท่านมีความรับผิดชอบในการนำพาเขาสู่ความสำเร็จ  ให้เขาได้รับรายได้ที่เขาปราถนา  แนะนำ  แนะแนวการดำเนินธุรกิจอย่างถูกวิธี  คอยช่่วยเหลือสนับสนุนทีมงานอย่างเป็นระบบ  หาเงินใส่กระเป๋าลูกทีมใหม่ของท่านให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาไม่เกิน  1  เดือน!   หากท่านทำไม่สำเร็จเขาก็จะจากไป  ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ท่านประสบความสำเร็จได้เพียงวิธีเดียว  คือการดำเนินงานด้วยความจริงใจปราถนาดี  เอื้อเฟื้อ  แบ่งปันแก่ทุกคนที่ได้พบปะุ  ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติของการเป็น  "มิตรแท้"  ...  

                 **และนี่คือเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในธุรกิจเครือข่าย**

                 ขอให้ทุก ๆ ท่านโชคดี และ ประสบความสำเร็จ



สวัสดี



  

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย (2)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                1. PROSPECTING :  การหาผู้มุ่งหวัง  ว่ามีใครบ้างที่อาจสนใจในตัวผลิตภัณฑ์  หรือสนใจในการดำเนินธุรกิจ  ตามทฤษฎีกำหนดให้คลอบคลุมวงให้กว้างที่สุด  หลายบริษัทให้เริ่มจากบัญชีรายชื่อและพยายามเข้าสังคม  ใยุคการสื่อสารไร้พรมแดน  บางคนใช้วิธีลงโฆษณาในหนังสือ  สิ่งพิมพ์  บ้างแจกแผ่นพับ  บ้างเข้าร่วมงานแสดงสินค้า  บางคนทันสมัยใช้อินเตอร์เน็ต  บ้างพยายามออกงานสังคมไปงานเลี้ยงรุ่น  สมัครเป็นสมาชิกกิจกรรมมากมาย  หวังขายสินค้าหลากหลายแก่ทุกคนที่พบปะ  จนชาวบ้านวิ่งหนีกันกระจุยกระจาย

                 หากท่านมีสินค้าที่มีคุณภาพจริง...  ท่านเพียงดำเนินชีวิตตามปกติ  ปรับทัศนคติทำตนเป็น  "มิตรแท้"  แก่ทุกคน  ให้ความสนใจในความทุกข์ของทุกคนที่ท่านได้พบเห็น  ใส่ใจในความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ในทุก ๆ เวลา ทุก ๆ นาที  เพียงเท่า่นี้ท่านก็สามารถมีรายชื่อเป็นร้อยเป็นพันทุก ๆ วัน! 
                 ความทุกข์ใหญ่ ๆ ของคนเรามี  2  ประการคือ 
                 1. ทุกข์อันเกิดจากปัญหาสุขภาพของตนอันเป็นที่รักและ...
                 2. ทุกข์จากปัญหาการเงิน  รายรับไม่พอรายจ่าย  ฉะนั้นสิ่งที่ท่านจะต้องทำคือสังเกตุและใส่ใจ  ถามคำถาม... "สบายดีหรือ?"  แล้วก็ฟัง...ฟังและฟัง...ค้นหาความทุกข์โดยการถาม...และการฟัง
                 * หากเขามีความทุกข์เพราะปัญหาสุขภาพ  ท่านมี  ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสุขภาพที่อาจช่วยเขาได้
                 * หากเขามีความทุกข์เพราะปัญหาการเงิน  ท่านมีธุรกิจที่อาจช่วยเขาได้

                 2. RECRUITING  :  การแนะนำธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์  หลาย ๆ บริษัทจะแนะนำให้เราถามและฟังความต้องการของผู้มุ่งหวัง  เขามีปัญหาอะไร?  เขาต้องการอะไร?  ในขั้นตอนแรก...(การควานหาผู้มุ่งหวัง)  ต้องการลดความอ้วน  หรือเพิ่มน้ำหนัก  ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน  ปุ๋ยหรือยากำจัดแมลง  แปรงสีฟันหรือสบู่  ครีมล้างหน้าหรือน้ำยากำจัดขน ฯลฯ   แล้วท่านก็เลือกสินค้าเพื่อนำเสนอจากบัญชีรายการสินค้า  50  กว่ารายการ!  เราจะบอกกับผู้รู้จักว่า... เราปราถนาดีเป็นมิตรแท้ได้อย่างไร  ในเมื่อเราแนะนำสินค้าทุกอย่างที่ขวางหน้า !

                 เลือกสินค้าให้น้อยชนิด  เริ่มจากสินค้าที่ท่านศรัทธามากที่สุด  จากนั้น  เลือกแนวทางการบรรทุกข์ของเขาเพียงสองทาง  หากเป็นปัญหาสุขภาพ  เราแนะนำผลิตภัณฑ์ตามประสบการณ์ ที่เราได้พบตามความเป็นจริง  เยี่ยง  "มิตรแท้"  หากเป็นปัญหาการเงิน  เราแนะนำธุรกิจตามความเป็นจริงที่ได้ประสบมาเช่นกัน





                 หากในช่วงของการควานหาตัวบุคคล  ท่านได้ถามคำถามและฟัง, ฟัง, ฟัง  จนได้ยินความปราถนาของผู้มุ่งหวัง  ท่านจะสามารถแนะนำสินค้า  หรือผลิตภัณฑ์ได้ตรงจุด  เขามีปัญหาสุขภาพอะไร และท่านมีประสบการณ์อะไรแนะนำเขา  หากเขามีปัญหาการเงิน  ปัญหาเขามากน้อยเพียงใด  และเขาปราถนาอะไร   ท่านคงไม่แนะนำการดำเนินธุรกิจข้ามชาติและการทำงานซับซ้อน  มุ่งหวังรายได้หลายแสนบาทแก่ผู้ต้องการรายได้เสริมเพียง  3 - 4  พันบาทต่อเดือน  ขระเดียวกันท่านคงไม่แนะนำรายได้  3 - 4  พันบาทต่อเดือน  แก่ผู้ซึ่งถูกเลิกจ้างจากงานประจำที่เคยมีรายได้  80,000.-  บาทต่อเดือน  ขณะที่เขาพร้อมที่จะลงทุนลงแรงในธุรกิจซึ่งจะให้ผลตอบแทนเท่ากับรายได้เดิมที่เคยได้รับ  ขั้นตอนที่ 2...นี้  เป็นการดำเนินงานที่ต่อเนื่องจากขั้นตอนที่  1   ท่านจะมีความสามารถในการแนะนำได้วิธีเดียวคือ   การดำเนินการขั้นตอนที่  1  ให้ดีที่สุด  ซึ่งเป็นการค้นหาและใส่ใจความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยความจริงใจ   ถามคำถามที่เหมาะสมและฟัง  

                 จากนั้นจึงแนะนำผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจด้วยความจริงใจ อย่าเพิ่งหวังเรื่องธุรกิจ  เพียงหวังว่าสิ่งที่ท่านแนะนำจะช่วยขจัด หรือบรรเทาความทุกข์ของเขาได้




สวัสดี




วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย (1)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


                ผู้รู้ในธุรกิจเครือข่ายจะเห็นพ้องต้องกันว่า  "บัญชีรายชื่อของผู้มุ่งหวัง"   เป็นสิ่งที่ผู้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายจะขาดไม่ได้  ยิ่งปริมาณรายชื่อมีมากเท่าใด  โอกาสในการประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้นเท่านั้น  รายชื่อผู้มุ่งหวังเปรียบเสมือนน้ำมันเชื้อเพลิงของพาหนะธุรกิจเครือข่าย  หากท่านต้องการดำเนินธุรกิจเครือข่าย  จงอย่าได้สตาร์ทเครื่องจนกว่าท่านจะมีน้ำมันเต็มถัง!




                 เริ่มจากรายชื่อของคนรู้จัก  หากปริมาณรายชื่อของท่านมีน้อย...ท่านจะไม่สามารถพบปะผู้คนได้มากพอ  เมื่อท่านไม่พบปะผู้คนมากพอ...ท่านจะไม่สามารถแนะนำธุรกิจและผลิตภัณฑ์ได้มากพอ  เมื่อไม่สามารถแนะนำได้มากพอ...รายได้ของท่านก็จะไม่มากพอ  โอกาสในการประสบความสำเร็จของท่านจึงเปรียบเสมือนแสงเทียนที่ริบหรี่เต็มที  ธุรกิจนี้เป็นเรื่องของตัวเลข  และ  ปริมาณจากบุคคลทั่ว ๆ ไป  100  คน  ท่านจะได้พบกับเพชรน้ำหนึ่งที่สามารถประสบความสำเร็จสูงในธุรกิจนี้  2-3  คน  และจะมีอีก  10-20  คน  ที่สามารถดำเนินธุรกิจแบบพอกล้อมแกล้มไปได้  ฉะนั้นหากท่้านรู้จักคนมากพอ และขยันที่จะแนะนำธุรกิจและผลิตภัณฑ์บ่อยพอ   ท่านจึงจะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จ

                 การมีรายชื่อผู้มุ่งหวังจำนวนมาก  จะทำให้ท่านมีความสบายใจและความมั่นใจในการดำเนินงาน  เพราะความสำเร็จของท่านจะไม่ขึ้นอยู่กับบุคคล  เพียง  3  คน หรือ  10-20  คนและหากท่านมีรายชื่อบุคคลมากพอ  ท่านไม่จำเป็นต้องตามตื้ออ้อนวอน  บุคคลใดบุคคลหนึ่งให้เข้าร่วมธุรกิจ  เพราะเรายังมีบุคคลอีกมากมายในบัญชีรายชื่อ ที่เราสามารถติดต่อเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และธุรกิจได้

                  ปัญหาส่วนใหญ่ของสมาชิกมิได้อยู่ที่ความไม่รู้ความสำคัญของบัญชีรายชื่อ  ไม่ใช่รู้ว่าจำนวนผู้มุ่งหวังนั้นมีความสำคัญต่อความสำเร็จของเขาอย่างยิ่งยวด  หากแต่ปัญหาของสมาชิกส่วนใหญ่คือ  "ไม่รู้จักใคร"  จะมีสักกี่คนที่รู้จักคนมากกว่า  100  ครอบครัว?,  จะมีสักกี่คนที่สามารถออกปากขายสินค้าให้แก่คนรู้จักสัก 100 คน?   หากท่านเป็นผู้หนึ่งในบุคคลดังกล่าว  ขอให้ท่านทราบว่าท่านอยู่ในฐานะได้เปรียบกว่าบุคคลอื่น ๆ ในธุรกิจนี้อย่างมากมาย  และโอกาสในการประสบความสำเร็จของท่านนั้น  มีมากกว่า  80%

                    ข่าวดีที่ผมอยากแจ้งให้ทราบ  ซึ่งคงทำให้ท่านสมาชิกได้คลายความเครียดลงบ้างคือ  ในธุรกิจนี้ท่านไม่จำเป็นต้องมีบัญชีรายชื่อของผู้รู้จักเป็นร้อย ๆ รายชื่อจึงจะสามารถประสบความสำเร็จ  ท่านเพียงแต่  ต้องดำเนินชีวิตประจำวันของท่านในลักษณะ  "มิตรแท้"  เท่านั้นเอง!

                    การควานหาบุคคลที่เหมาะสมในเวลาอันเหมาะสมเป็น  1  ใน  3  กิจกรรมที่นักธุรกิจเครือข่ายจำเป็นต้องดำเนินการตลอดอายุงานคือ :-

                    1. Prospecting   การหาผู้มุ่งหวัง

                    2. Recruiting   การแนะนำธุรกิจ - ผลิตภัณฑ์ 

                    3. Sponsoring  การรับสมัครสมาชิกสู่เครือข่าย



สวัสดีครับ




วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีแนะนำผู้ที่ผิดหวังจากธุรกิจเครือข่าย...เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย (2)



สวัสดีครับ


                การที่เราจะแนะนำคนที่เคยผิดหวังในธุรกิจเครือข่ายเข้าสู่เครือข่ายนั้นเราจำเป็นต้องรู้เรื่องอย่างละเอียด  เรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์และความคาดหวังของเขาในอดีต  หากท่านถามคำถามถูกต้อง  เขาจะเป็นผู้บอกท่านเองอย่างชัดเจน  ว่าเขาต้องการอะไรหากเขาจะสมัครเข้าธุรกิจเครือข่ายอีกครั้ง

                 ขณะที่ท่านกำลังค้นหาความจริงใน  2  หัวข้อข้างต้น  อย่าลืมว่าท่านต้องไม่โต้แย้ง  หรือพยายามเปลี่ยนความคิดของเขา  อย่าเถียง  อย่าโต้แย้ง  เพียงถามคำถามโดยมุ่งเน้นการหาความจริงว่า  มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นบ้าง  ในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายของเขาในอดีต  และทำไมเขาสนใจธุรกิจเครือข่ายในตอนนั้น   เขาต้องการอะไรจากธุรกิจนี้แต่แรกเริ่ม

                 เมื่อเราทราบความจริง  2  ข้อข้างต้น  ท่านจึงพร้อมที่จะแนะนำธุรกิจของท่าน  แค่ต้องไม่ลืมที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น  ธุรกิจของท่านต้องเป็นธุรกิจเครือข่ายขนานแท้  และเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่ดีจริงพูดทุกอย่างตามความเป็นจริง  และท่านต้องอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าข้อผิดพลาดหรือบกพร่องที่เขาเจอมาในอดีตจะไม่เกิดขึ้นในธุรกิจของท่าน  พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ  บริษัทของท่านจะต้องมีจุดยืนจุดขาย  ข้อเสนอที่ดีกว่าบริษัทเดิมที่เขาเคยทำมาอย่างแท้จริง


จุดต่าง ๆ จะไม่พ้นหัวข้อดังต่อไปนี้ :-

                 1. ตัวบริษัท และ ความมั่นคง

                 2. ผลิตภัณฑ์

                 3. แผนการตลาด

                 4. ผู้บริหาร

                 หากท่านไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดที่เขาพบมาในอดีตได้  ก็อย่าเสียเวลาพยายามชักชวนเขาสู่ธุรกิจของท่านเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวท่านเองต้องย้อนกลับมาพิจารณา  4  หัวข้อนี้ว่า  ตัวท่านเองมีความเชื่อมั่นในบริษัทของท่านทั้ง  4  หัวข้อนี้มากน้อยเพียงใด  หากท่านไม่เชื่อมั่นในหัวข้อหนึ่งข้อใด  โอกาสในการที่ท่านจะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ดูจะริบหรี่เหลือเกิน!


แนวทางการพิจารณาและเปรียบเทียบ
บริษัทธุรกิจเครือข่ายที่ถูกระบบ


1. บริษัท

                 #  พิจารณาความมั่นคง เงินทุนจดทะเบียน

                 #  จำนวนปีที่ได้ดำเนินกิจการ

                 #  นโยบายการสนับสนุนสมาชิก

                 #  ระบบการอบรม  พัฒนาสมาชิก

2. ผลิตภัณฑ์

                 #  ต้องมีคุณภาพเด่นชัด

                 #  เป็นสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม  เป็นที่ต้องการของตลาดมีผู้บริโภคอย่างแท้จริง  ไม่ใช่ซื้อเพื่อหวังผลทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว

                 #  เป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป  เมื่อหมดแล้วต้องซื้อซ้ำ

                 #  ราคาเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้บริโภค

3. แผนการตลาด

                 #  ต้องสามารถทำรายได้ได้จริง  ไม่ยาก - ง่าย  หรือซับซ้อนเกินไป

                 #  รายได้ต้องมาจากการกระจายสินค้าของสมาชิกและทีมงาน  ไม่ใช่มาจากการแนะนำคนเข้าสู่ระบบ

                 #  เป็นแผนที่ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ทั้งผู้ดำเนินธุรกิจ  ผู้บริโภคและตัวบริษัท

                 #  ไม่สนับสนุนให้สมาชิกซื้อและกักตุนสินค้า  เพื่อการขึ้นตำแหน่ง

                 #  ต้องมีนโยบายรับประกันความพอใจโดยการซื้อคืน

4. ผู้บริหาร

                 #  มีตัวตน  และดำเนินธุรกิจอย่างสง่างามและเปิดเผย

                 #  มีความรู้  ประสบการณ์และวิสัยทัศน์

                 #  มีคุณธรรม

                 #  สมาชิกเข้าถึงได้



สวัสดี




วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีแนะนำผู้ที่ผิดหวังจากธุรกิจเครือข่าย...เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย (1)



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



                     สมาชิกหลาย ๆ คน   ถอยหลังกรูดเมื่อทราบว่า  ผู้ที่ตนมุ่งหวังเป็นบุคคลที่เคยทำธุรกิจเครือข่ายมาแล้ว   เป็นบุคคลที่เคยผิดหวัง  เคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน  ไปจนกระทั่งถึงเคยถูกแม่ทีมหรือบริษัทธุรกิจเครือข่ายที่ดำเนินการไม่ถูกทำนองคลองธรรม  "หลอก"  มาก่อน  และกำลังเข็ดหลาบกับธุรกิจเครือข่าย

                     ความจริงแล้วบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่น่าสนใจ  ความจริงแล้วบุคคลเหล่านี้ยังเป็นผู้ที่มุ่งหวังที่ดี  มีโอกาสประสบความสำเร็จกว่าคนทั่ว ๆ ไป  ท่านสามารถโน้มน้าวให้เขาเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายของท่านได้ง่ายกว่าบุคคลทั่ว ๆ ไป  แต่...ธุรกิจเครือข่ายของท่านต้องเป็นธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริง  ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องทั้งในแง่กฎหมายและจริยธรรม  บริษัทของท่านต้องมั่นคง  และท่านต้องเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ

                     บุคคลเหล่านี้เคยลองดำเนินธุรกิจเครือข่ายมาก่อน  หรือเคยสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายมาก่อน  ฉะนั้นเราจึงสามารถมีบทสรุปได้บางประการ...
                      1. บุคคลเหล่านี้เป็นผู้มุ่งหวังที่ดี  เพราะในอดีตเขาเคยมีความเชื่อและความตื่นเต้นในธุรกิจนี้มิเช่นนั้น  เขาจะไม่ทดลองทำหากเขาไม่มีความเชื่อและความตื่นเต้นมาก่อน
                      2. บุคคลเหล่านี้ด้องการจะมีมากกว่าที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน  เขามีความไม่พอใจอะไรบางอย่างในชีวิตและเคยมีความคิดว่าธุรกิจเครือข่ายสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้
                      3. บุคคลเหล่านี้เคยตัดสินใจที่จะดำเนินการอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะความเป็นอยู่ของตนเอง  แทนที่จะนิ่งเฉย ๆ รอการเปลี่ยนแปลงตามบุญตามกรรม
                      4. บุคคลเหล่านี้คิดว่า  ระบบธุรกิจเครือข่าย  ทำให้เขาผิดหวัง  เขาสรุปว่า  บริษัทธุรกิจเครือข่าย  ทุกบริษัทคงเหมือนกันหมด  และสาปแช่งธุรกิจเครือข่าย

                      เมื่อเราทราบความจริงเหล่านี้  ทำให้เราสามารถวางแนวทางการแนะนำธุรกิจได้อย่างถูกต้อง  แต่การดำเนินการดังกล่าวท่านจำเป็นต้องมี  ความรู้เพิ่มเติมอีก  2  ประการ
                     1. เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขามีความคิดแง่ลบกับธุรกิจเครือข่าย  เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในอดีตจนเกิดความผิดพลาดอะไร?   ตรงใหนที่ทำให้เขาผิดหวังกับธุรกิจเครือข่าย?
                     เราสามารถทราบคำตอบได้ด้วยการถามคำถามเชิงปรึกษา  "ฉันรู้ว่าเธอเกลียดและไม่สนใจธุรกิจเครือข่าย  แต่ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่า  เพราะเหตุอะไร  ฉันจะได้ระวังตัว  เป็นเพราะเธอเสียเงินไปเยอะ?  หรือคนที่แนะนำเธอเข้าสุ่ธุรกิจโกหกหลอกลวงเธอ?  หรือบริษัทที่เธอทำงานด้วยปิดตัวลงไป?  หรือ  ???..."
                     2. เหตุผลหลักที่ทำให้เขาเคยสนใจธุรกิจนี้  เคยตื่นเต้นกับมันจนเขาทดลองสมัครสมาชิกและเคยลองทำธุรกิจ

                    ตรงนี้อีกเช่นกัน  ถามคำถามเพื่อค้นให้พบคำตอบที่แท้จริง  "ทำไมตอนนั้นคุณถึงได้เข้าร่วมธุรกิจล่ะ  อยากมีรายได้จากการทำงานครั้งเดียว?  หรือเพราะอยากสร้างธุรกิจที่เป็นของตนเอง?  หรืออยากมีรายได้แบบไร้ขีดจำกัด?...???"




สวัสดีครับ




                 

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอ (2)



สวัสดีครับ


               1. ต้องมีเหตุผลที่สำคัญและชัดเจน  เมื่อท่านมีเหตุผลที่มีความสำคัญมากพอในการที่จะประสบความสำเร็จ  ท่านจึงจะสามารถค้นพบวิธีการและมีความเพียรพยายามที่จะดำเนินการให้บรรลุความสำเร็จ  เหตุผลของความเชื่อจะเป็นแรงผลักดันให้ท่านมีความมุ่งมั่นขอให้เป้าหมายของท่านเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญต่อตัวท่านและบุคคลอันเป็นที่รัก  แล้วท่านจะดำเนินงานด้วยพละกำลังมโหฬารคงความกระตือรือร้น  และความตื่นเต้น

                2. บันทึกวัตถุประสงค์ของท่านลงบนกระดาษ  เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่าเพียงแต่คิด  เขียนไว้ด้วยหมึก  เมื่อท่านบันทึกเป้าหมายด้วยหมึกมันไม่เพียงแต่จะปรากฎลงบนแผ่นกระดาษเท่านั้น  แต่มันจะถูกบันทึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของท่านอย่างไม่รู้ตัว

                3.  วาดภาพ  มองภาพความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายของท่านให้เกิดเป็นภาพ  ไม่มีอะไรที่จะมีความรุนแรงเท่ากับมโนภาพที่ชัดเจน  เมื่อท่านประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหน้าตาของความสำเร็จนั้นเป็นอย่างไร?  บุคคลรอบข้างจะพูดถึงท่านว่าอย่างไรและท่านจะรู้สึกอย่างไร?  ภาพแห่งความสำเร็จจะเป็นเสมือนแรงแม่เหล็กมหัศจรรย์ที่ดูงดูดความเพียรพยายามและความสามารถของตัวท่านให้ปรากฎชนิดที่ตัวท่านเองไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้

               4. ยืนยันความตั้งใจ  พูดถึงเป้าหมายของท่านให้เกิดเป็นความจริง  พูดถึงเป้าหมายของท่านในปัจจุบันการดำเนินงานของท่านในปัจจุบันคำพูดในแง่ดีที่ท่านจะกระทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ท่านต้องการตอกย้ำความตั้งใจโดยการพูดจะทำให้เป้าหมาย  และวัตถุประสงค์ของท่านชัดเจนอยู่เสมอ   และจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ท่านอย่างมากมาย

                5. กำหนดแผนงาน  อะไรคือสิ่งที่ท่านจะต้องทำในแต่ละก้าวที่จะนำพาท่านจากจุดที่ท่านยืนอยู่ในปัจจุบันสู่จุดที่ท่านต้องการจะอยู่ในอนาคต?  แผนการดำเนินงานของท่านจะมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงขณะดำเนินการ  ฉะนั้นจงกำหนดเป้าหมายของท่านด้วยคอนกรีตผสมเหล็ก  ขณะที่กำหนดแผนงานด้วยเม็ดทราย  ปรับปรุงและพัฒนาแผนการดำเนินงานตลอดเวลา

                 6. วัดผลการดำเนินงาน  ท่านไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ท่านไม่สามารถวัดได้  สร้างมาตรการการวัดผลของการดำเนินงาน  บันทึกสิ่งที่ท่านได้กระทำ  และคอยวัดผลของการกระทำ  การวัดผลการดำเนินงานเป็นหัวใจของการพัฒนา  เป็นอาหารมื้อเช้าของผู้ประสบความสำเร็จทุกคน

                 7. สร้างระบบที่สนับสนุนการทำงานแวดล้อมตัวท่านเอง  ด้วยผู้คนที่ให้กำลังใจ  และท้าทายความสามารถของท่าน  อย่าอยู่ใกล้คนขี้เกียจ  ท้อแท้และมองโลกในแง่ร้าย  มีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นนอกเหนือจากการรับผิดชอบเพียงตัวเอง  อ่านหนังสือ  ดูหนัง  และฟังเทปที่สร้างแรงบันดาลใจ  อ่านประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จพิจารณาทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้ทำสำเร็จมาแล้วในชีวิต

                 8. มุ่งเน้นเป้าหมายทีละน้อย ๆ  ท่านสามารถได้รับความสำเร็จในเรื่องใด ๆ ก็ได้  แต่ท่านไม่สามารถได้รับความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง  มุ่งเน้นการดำเนินงานสู่เป้าหมายให้น้อยชิ้น  ท่านอาจมีเป้าหมายและแผนงานเป้นจำนวนหลายสิบโครงการ  แต่มุ่งเน้นการดำเนินงานเพียง  3  เป้าหมายในเวลาเดียวกัน

                 9. ลงมือด้วยการกระทำทุกวัน  การจะบรรลุสู่ความสำเร็จต้องการการดูแลเอาใจใส่ทุก ๆ วัน  การเขียนวรรณกรรม  400 หน้า  ไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาเพียงวันเดียว  แต่การเขียนเพียง  1 - 2 หน้าต่อวัน  ทุก ๆ วันก็สามารถสำเร็จได้ภายใน  1  ปี  เป้าหมายทุก ๆ เป้าหมายสมารถแตกย่อยเป็นการดำเนินงานที่สามารถทำได้ด้วยความไม่ลำบาก  หากกระทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

                10. ให้รางวัลกับตัวเอง  กำหนดเป้าหมายระยะสั้น ๆ ให้กับตัวเอง  บอกและกำหนดกับตนเองว่าท่านได้ทำมันสำเร็จอย่างเป็นขั้นเป็นตอน  ท่านสมควรจะได้รับความสำเร็จ  ซึ่งเป็นผลของการกระทำอย่างต่อเนื่อง  ท่านสมควรจะให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายสั้น ๆ

                การกระทำที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ  มีพละกำลังอันมหาศาล  การดำเนินธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การวิ่ง  100  เมตร  หากเป็นการวิ่งมาราธอนระยะยาว  ทุกคนมีโอกาสประสบความสำเร็จ  หากไม่ละความพยายาม  แตกต่างกันที่ใครจะประสบความสำเร็จช้าหรือเร็ว  เพราะทุกคนวิ่ง (หรือคลาน)  ด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน  เพราะฉะนั้นอย่าหักโหม  และที่สำคัญที่สุด  ท่านจะวิ่งหรือคลานก็ตาม...



                                                **  อย่าหยุด!!! **




สวัสดีครับ




วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอ (1)



สวัสดีครับ


               เช่นเดียวกับนักธุรกิจเครือข่ายทั่ว ๆ ไป  ผมพยายามหาบทสรุปว่า...อะไรคือ กุญแจดอกสำคัญที่สุดในการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะประสบความสำเร็จ  ได้ผลลัพธ์ที่เป็นสุดยอดความปราถนา  แน่นอนว่าการประสบความสำเร็จนั้นมีส่วนประกอบหลายประการ  แต่สิ่งที่ผมคิดว่ามีความสำคัญที่สุด  (แต่ในหลาย ๆ กรณีถูกมองข้ามไป)  คือ "ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอ"

               การทำกิจกรรมใด ๆ เพียงวันหนึ่ง  อาทิตย์หนึ่งหรือเดือนหนึ่ง  ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงการกระทำวัน - สองวัน  อาทิตย์ - สองอาทิตย์  ให้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอเป็นระยะเวลายาวนาน  จะทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถลดน้ำหนักตัวได้ตามต้องการ

               การออกกำลังกายอย่างหนักวันละ  8 - 10  ชั่วโมง  เพียงวัน - สองวัน  อาทิตย์ - สองอาทิตย์  จะไม่สามารถทำให้ท่านมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและหุ่นที่สวยงามได้  แต่การออกกำลังกายวันละชั่วโมงทุกวันที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ  ทุกวันเป็นปี  2 ปี  5 ปี  สามารถทำให้ผู้ชายในวัยอันสมควรมีกล้ามเนื้อและทรวดทรงที่สามารถประกวดชายงามได้ทุกคน

               การซ้อมมวยอย่างหนักวันละ  10  ชั่วโมง  เพียงเดือนสองเดือนไม่สามารถทำให้ใครพิชิตเหรียญทองโอลิมปิกได้  แต่การซ้อมที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอทุกวันเป็นแรมปี  เท่านั้นที่จะสามารถพาท่านสู่เป้าหมายพิชิตเหรียญทองได้ในที่สุด

               ผมเ้ห็นสมาิชิกนักธุรกิจเครือข่ายหลายร้อย  หลายพันคนที่สมัครเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยความตื่นเต้นและกระฉับกระเฉง  มีความฝัน  มีความต้องการ  พยายามศึกษาหาความรู้  มีแนวทางการทำงานอย่างเป็นระบบหลาย ๆ คนเข้ามาด้วยความศรัทธาในตัวสินค้า  ศรัทธาในระบบการจัดจำหน่าย  และมีความตั้งใจเกินร้อยในการดำเนินงานสู่ควาสำเร็จ  หลาย ๆ คนไม่ประสบความสำเร็จ  เพราะขาดความสม่ำเสมอ  ขาดความต่อเนื่องนั้นเอง

               โจ  แกนดาโฟ  นักขายประกันอันดับ  1 ใน 10  ของอเมริกา กล่าวว่า "ใครก็ตามที่ปราถนาความสำเร็จ  ผมขอแนะนำให้ตื่นนอนช่วง 5  นาฬิกา  คร่ำเคร่งอยู่กับงานจนถึง  4  ทุ่ม เป็นเวลา 6  วันต่อสัปดาห์  ทำจนกว่าคุณจะได้กลิ่นไอแห่งความสำเร็จ  ถ้าทำอย่างนี้ได้  คุณจะพัฒนาไปจนติดเป็นนิสัย  และไม่มีใครจะสามารถเทียบรัศมีคุณได้ "


               Sir  Winston  Churchill  กล่าวว่า  "ความสำเร็จคือการประสบความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก  โดยไม่เลิกล้มความตั้งใจ"



               Aristotle  กล่าวว่า  "เราคือสิ่งที่เราทำอย่างสม่ำเสมอ  ความสมบูรณ์ไม่ใช่การกระทำแต่เป็นนิสัย"



               จากนี้เป็นข้อแนะนำ  10  ข้อ  ในการที่ท่านจะสามารถคงไว้ซึ่งความชัดเจนของเป้าหมาย  คงไว้ซึ่งความเพียรพยายามในการดำเนินงานสู่ความสำเร็จเพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน




สวัสดีครับ





วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลูกทีมทำงานเพียง 10% (2)



สวัสดีครับ


       การควานหาบุคคลจำพวก 10%  นี้เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำงาน

                การแนะนำคนเข้าสู่เครือข่ายเป็นเส้นเลือดธุรกิจของท่าน  การรับสมัครสมาชิกใหม่เปิดโอกาสให้ท่านได้พบกับบุคคลจำนวน  10%  บุคคลประเภทนี้ไม่มีเครื่องแบบหรือ เหรียญตราอะไรติดหน้าอกเพื่อที่จะทำให้เราทราบว่า  เขาคือบุคคลจำพวก  10%   ท่านอาจจะไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นธุรกิจด้วยซ้ำไป

                ขณะเดียวกันท่านอาจจะรับสมัครบุคคลที่เคยเป็นจำพวก  10%  ในบริษัทอื่น  แต่กลายเป็นเพียงผู้บริโภคในเครือข่ายของท่าน  ฉนั้นวิธีการก็คือ ทยอยรับสมาชิกใหม่ตลอดอายุงานเพื่อโอกาสในการได้พบกับบุคคลจำพวก  10%  หากท่านไม่สามารถควานหาบุคคลประเภทนี้ได้  ท่านกำลังก่อสร้างธุรกิจแต่เพียงลำพัง  สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวท่านเองอาจไม่ใช่ผู้ที่รับสมัครบุคคล   10%  หลาย ๆ โอกาส  บุคคล  10%  อาจได้รับการแนะนำจากลูกทีมของท่านที่ทำงานเพียงชั่วครั้งชั่วคราว  เกิดความท้อแท้และเลิกดำเนินธุรกิจ  แต่ทิ้งบุคคลประเภท  10%  นี้ไว้ให้ท่านได้ทำงานด้วยต่อไป  มีคำพูดในธุรกิจนี้ว่า  "มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าท่านรู้จักใคร  แต่ขึ้นอยู่กับบุคคลที่ผู้อื่นรู้จักที่สร้างธุรกิจเครือข่ายของท่าน"

       ลักษณะของบุคคลประเภท 10%

               บุคคลประเภทนี้มีแรงบันดาลใจในการทำงาน  มีความมุ่งมั่นอดทนสูง  มีความต้องการอย่างแรงกล้า  ถามคำถามมาก  และมีจรรยาบรรณในการทำงานสูง  ส่วนใหญ่จะสามารถดำเนินงานตามระบบที่ได้กำหนดไว้  และผมได้พบว่าบุคคลกลุ่มนี้ต้องการ  การสื่อสาร  ต้องการข้อมูลล่าสุดของบริษัท  ตลอดเวลา

       การจะทำให้บุคคลประเภท  10%  ทำงาน

               โปรดสังเกตุว่าผมไม่ได้ระบุว่า  บุคคลกลุ่มนี้จะสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยตัวเอง  ฉนั้นการแนะนำแนวทางอย่างเป็นระบบ  โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกมีความสำคัญอย่างยิ่ง  การดำเนินการให้เขามีความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของทีมงานเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด  
     
     
       พวก 1%

                ยังมีคนอีกกลุ่มคือ  พวก  1%  ซึ่งหายากยิ่งกว่าเข็มหมุดในกองฟาง  แตมีอยู่ในทุก ๆ สังคม  พวก  1%  นี้จะมีความสามารถในการก่อสร้างธุรกิจของตนเอง  มีคุณสมบัติเพิ่มเติมจากพวก  10%  คือความสามารถในการกำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว  พวก  1%  นี้จะศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์  และบริษัทหลาย ๆ บริษัท  ก่อนตัดสินใจสมัคร

                สมาชิก  1%  นี้มีความเป็นผู้นำตามธรรมชาติ  รู้วิธีแนะนำและสร้างพลังใจแก่สมาชิกในเครือข่าย  และมีวิธีการก่อสร้างเครือข่ายของตนเอง  มีความมุ่งมั่นสูง  เมื่อประสบกับปัญหาและอุปสรรค  เขาจะรวบรวมสมาชิกและคิดหาวิธีการอื่น ๆ

                พวก  1%  มองโลกในแง่ดี  ชอบที่จะอยู่กับผู้คน  มีพละพลังเพิ่มขึ้นโดยการช่วยเหลือทีมงานเพื่อพัฒนาการดำเนินธุรกิจของตนเอง  พวกนี้จะพิถีพิถันในการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะแนะนำเข้าสู่ธุรกิจ  เขาจะเลือกคนที่เขาสามารถสื่อสารได้ด้วยดี  และเลือกบุคคลที่จะสนับสนุนเขาได้

                พวก  10%  อาจพัฒนาตนเองมาเป็นพวก  1%  ได้  แต่สำหรับพวกเรานักธุรกิจเครือข่าย  เราฝัน  เราควานหาพวก  1%  นี้ทุกลมหายใจขณะที่เรากำลังควานหา  เราควรพัฒนาตนเองและพัฒนาลูกทีมให้เป็นพวก  1%  ให้ได้

                การก่อสร้างองค์กรในการดำเนินธุรกิจเพื่อรายได้ที่มั่นคงนั้น  เป็นขั้นตอนการทำงาน  ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกระจายสินค้าตามธรรมชาติของมันเป็นธุรกิจระยะยาว  ธุรกิจที่ยั่งยืนใช้เวลาในการสร้างตัว  เรากำลังก่อสร้างธุรกิจไม่ใช่การหารายได้เสริมเป็นครั้งคราว

                ผมเคยเห็นแม่ทีมที่สามารถทำรายได้ได้มากมายภายในระยะเวลาอันสั้น  เครือข่ายและสมาชิกขยายตัวอย่างมโหฬาร  รายได้และสมาชิกสลายตัวไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน  เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น  แม่ทีมผู้นั้นก็จะย้ายบริษัท  และพยายามทำให้เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นเป็นรอบที่  2  และในหลาย ๆ กรณีก็สามารถทำได้  แต่สิ่งที่ผมห่วงก็คือเรื่องของรายได้และธุรกิจระยะยาว

                ธุรกิจเครือข่ายถูกก่อตั้งเพื่ออำนวยให้สมาชิกสามารถสร้างธุรกิจของตนเองให้ใหญ่โต  และมั่นคงพอที่จะปลดเกษียณตัวเอง  แต่ยังคงมีรายรับที่มั่นคงไปอีกนาน  ทุกคนฝันที่จะเกษียณตัวเองให้เร็วที่สุด  ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีอายุถึง  60 ปี  แต่อาจจะเกิดขึ้นเมื่ท่านมีอายุ  30 - 35  ปี หรือ  45  ปีก็ได้


                ศึกษาธุรกิจนี้ให้ดีครับ  ผมพบว่าสมาชิกเครือข่ายหลาย ๆ คนมีความเข้าใจผิด ว่าธุรกิจนี้คือการเสี่ยงโชค  คือวิธีการรวยข้ามคืนโดยตนเองไม่ต้องทำงานอยู่เฉย ๆ แล้วจะได้เงิน   ท่านกำลังซื้อลอตเตอรี่หรือกำลังลงแรงลงใจก่อตั้งธุรกิจของตัวท่านเอง  ธุรกิจที่จะสามารถ  หาเลี้ยงตนเองและครอบครัวเพื่อความมั่นคงทางการเงินระยะยาว?




สวัสดี

                        

     

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลูกทีมทำงานเพียง 10% (1)



สวัสดีครับ


                 ตลอดระยะเวลาที่ผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเครือข่าย  ผมพอจะสรุปได้ว่าสมาชิกที่ท่านแนะนำและสมัครเข้าสู่ธุรกิจนี้จะมีเพียง  10% ที่จะลงมือทำธุรกิจ  หากท่านโชคร้ายตัวเลขของท่านอาจต่ำกว่านี้ด้วยซ้ำไป

                 ผมไม่สามารถสรุปได้ว่า  ทำไมบุคคลที่สมัครเข้าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแนะนำให้สมาชิกทำงานร่วมกับคนอื่นเพื่อทุกคนจะได้ทำงานกันคนละเล็กคนละน้อยเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มหาศาล  จะไม่ยอมทำงานแม้เพียงเล็กน้อย  แต่ผมพอจะนึกถึงสาเหตุได้หลายประการ



                 การไม่ลงมือทำงานของสมาชิกมีส่วนประกอบมากมาย เช่นปัญหาส่วนตัว และปัญหาครอบครัว  การไม่มีเงิน  ไม่มีเวลา  ไม่มีแรงบันดาลใจ  ไม่มีความรู้ความผิดหวัง  ความท้อถอย  และโรคระบาด คือ การกระโดดจากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่ง  ด้วยความคิดว่า   หญ้าอีกฟากหนึ่งของรั้วมักดูเขียวกว่าเสมอ

                 ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด  ตัวเลขทางสถิติของผมคือ  มีคนเพียง 10%  ถึง  20% ที่จะลงมือทำงาน  เราคงเคยได้ยินคำพูดว่าในองค์กรทั่ว ๆ ไปคน  20%  จะทำงานประมาณ  80%  ของปริมาณงานทั้งหมด


                 เพราะฉนั้นเราจะกังวลทำไมหากลูกทีมเพียง  10%  ลงมือทำงาน?


                 ความจริงแล้วตัวเลขดังกล่าว  เป็นการแสดงศักยภาพของธุรกิจเครือข่าย  นักธุรกิจเครือข่ายหลายคนเป็นเศรษฐี  โดยมี  สถิติเดียวกัน  องค์กรใหญ่  ที่ประสบความสำเร็จได้  ถูกสร้างขึ้นจากคน  10%  ที่จะให้เกิดขึ้นในเครือข่ายของเขา  การที่ได้รู้สถิตินี้ทำให้นักธุรกิจเครือข่ายมีกำลังและแรงอันมโหฬารในการดำเนินธุรกิจ

        แล้วสมาชิกที่เหลืออีก 90%  ล่ะ?

                 สมาชิกอีก  80% -  90%  ในเครือข่ายของท่านสามารถที่จะเป็นผู้บริโภคที่ดีอย่างยั่งยืน  ผมเพียงแต่หวังว่าเขาเหล่านั้นสมัครสมาชิกเพราะเขามีความพึงพอใจ  และความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์บริษัทเครือข่ายที่มั่นคงจำเป็นต้องมีสินค้าที่มีคุณภาพเด่นชัด  ในราคาที่เหมาะสมนี้จะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปกลับมาซื้อสินค้าซ้ำแล้วซ้ำอีก  หากสมาชิกในเครือข่ายของท่านสมัครสมาชิกเพราะต้องการรายได้  เมื่อเขาไม่สามารถทำรายได้เขาก็ไม่ซื้อสินค้า  ฉนั้นการใ้ช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองและความเชื่อมั่นในตัวสินค้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  หากท่านต้องการเครือข่ายที่มีทั้งผู้ดำเนินธุรกิจและผู้บริโภค




สวัสดีครับ
                               



วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Gen M



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุุกท่าน


              คราวที่แล้วพูดถึง Gen Y ว่าเป็นความหวังของเครือข่ายแล้วยังมีอีก 1 Gen ที่เป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่มีระดับอายุแนวใกล้เคียงกันแต่ได้นิยามให้ทันสมัยขึ้น เรียกได้ว่าร่วมกระแสก็ได้   เราเรียกพวกเขาว่า  Generation M   ซึ่งข้อเขียนนี้ผมได้ยกมาจาก การศึกษา ของ อีริคสัน คอนซูเมอร์แล็บ (Ericsson ConsumerLab)  ดังนี้ครับ
              โดยวัยรุ่นยุคใหม่ (Young Professionals at Work) มีมุมมองการทำงานดังนี้
              * วัยรุ่นยุคใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานหรือที่เรียกอีกอย่างว่ากลุ่ม eneration M ถูกมองว่าจะมีอิทธิพลต่อรูปแบบของการทำงานในอนาคตอย่างมาก
             * กลุ่ม Generation M ตระหนักว่าการใช้เวลากับการติดต่อสื่อสารเรื่องส่วนตัวในระหว่างชั่วโมงการทำงานถือว่าเป็นสิทธิที่พวกเขาสามารถทำได้
             * กลุ่ม Generation M มีความต้องการที่จะรักษาความสมดุลระหว่างการทำงานและโลกชีวิตส่วนตัว


    


                                                                        




                จากการศึกษาของอีริคสัน คอนซูเมอร์แล็บ (Ericsson ConsumerLab) ในหัวข้อที่มีชื่อว่า “Young Professionals at Work” เป็นการศึกษาถึงมุมมองการก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานของกลุ่มเด็ก Generation M หรือที่เรียกว่า “The Millennials” โดยเน้นไปที่วัยรุ่นอายุระหว่าง 22 - 29 ปี ซึ่งเป็นคนที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและมีไฟในการทำงานและมีมุมมองต่อตัวเองในการที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้บริหารในอนาคต

                ข้อค้นพบที่สำคัญของรายงานฉบับนี้กล่าวถึงมุมมองและพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นในยุค Generation M ระหว่างการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตในการทำงาน ทั้งนี้ กลุ่มวัยรุ่นนี้มีความกระตือรือร้นและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย แต่ทั้งนี้ พวกเขาก็ยังคงคำนึงถึงโลกชีวิตส่วนตัวของพวกเขาด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงมองว่าการเช็ค Facebook หรือการแชต (Chat) ข้อความส่งหาคนอื่นๆในช่วงเวลาทำงานตลอดวัน เป็นสิทธิที่พวกเขาควรจะได้รับ


                 นางแอน ชาร์ลอตต์ คอร์นบาล์ด ที่ปรึกษาอาวุโส ของอีริคสัน คอนซูเมอร์แล็บ กล่าวว่า “กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มีความต้องการที่จะรักษาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ดังนั้น พวกเขาจึงมีความคาดหวังที่ว่าหัวหน้าหรือเจ้านายของเขาจะยอมรับกับเรื่องนี้ได้ และนอกจากนี้เอง พฤติกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ ของวัยรุ่นกลุ่ม Generation M คือการทำงานที่สามารถได้ใกล้ชิดกับหัวหน้างาน รวมทั้งการได้รับฟีดแบ็ค (Feedback) อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาจะไม่ชอบการทำงานที่ดูคลุมเครือ และวัดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนไม่ได้อีกด้วย”


                ในกลุ่มวัยรุ่น Generation M มากกว่า 45% ใช้โทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อคุยติดต่อในเรื่องงาน ถึงแม้ 23% ของเด็กกลุ่มนี้จะมีสมาร์ทโฟน (Samrtphones) โดยที่บริษัทจะเป็นผู้ที่จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม

                นายบัญญัติ เกิดนิยม  ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ ของอีริคสันประเทศไทย กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมของกลุ่ม Generation M จะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความอดทน ซึ่งส่วนหนึ่งก็น่าจะส่งผลมาจากการเติบโตขึ้นมาในสังคมที่ยุคที่มีการใช้  Facebook  อย่างแพร่หลาย พร้อมกับความเคยชินที่ได้จะรับฟีดแบ็คต่างๆ ที่รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงส่งผลทำให้เด็กในยุคนี้จะไม่ชอบการติดต่อสื่อสารใดๆ ที่ได้รับการตอบกลับที่ช้าหรือการที่ไม่ได้รับการตอบกลับมาในทันที




        
องค์กรในฝันของกลุ่มเด็ก Generation M       
     * มีความพึงพอใจในงานนั้นๆ 
               * สามารถนำเรื่องส่วนตัวเข้ามาในชีวิตการทำงานได้ (สามารถทำอะไรได้ในหลายๆ อย่าง)
               * ทำงานโดยมองไปที่เป้าหมายเป็นหลัก โดยไม่ต้องจำกัดว่าจะทำงานที่ไหนหรือเมื่อไหร่
              * มีโอกาสที่จะได้ทำงานเป็นทีม และกับคนที่อยู่ในช่วงอายุไล่เลี่ยกัน
              * ชอบองค์กรแนวราบ ไม่มีการจัดแบ่งตำแหน่งฝ่ายที่ยุ่งยากซับซ้อน
              * มีการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมทั้งการได้รับฟีดแบ็คอยู่ตลอดเวลา
              * มีการวัดผลที่เป็นรูปธรรม
              * เคารพต่อการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน
              * มีความได้ใกล้ชิดกับหัวหน้างาน
              * มีการอัพเดทในเรื่องของเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการติดต่อสื่อสา

              รายงานฉบับนี้ อีริคสัน คอนซูเมอร์แล็บได้ทำการวิจัยเชิงคุณภาพกับผู้สัมภาษณ์ที่มีอายุ 22 - 29 ปี ซึ่งอยู่ในซานฟรานซิสโกและซิลิคอน วัลเล่ย์ จำนวนทั้งหมด 64 คน โดยการสัมภาษณ์นั้นถูกควบคุมโดยผู้ที่ทำงานอยู่ในตำแหน่งฝ่ายบริหารโดยทำหน้าที่ในส่วนของการรับผิดชอบดูแลพนักงานที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าทำงานจำนวน 8 คน และผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของกลุ่ม Generation M จำนวน 4 คน

              จะเห็นว่ารูปแบบการใช้ชีวิตของวัยรุ่นยุคใหม่นี้จะเป็นในรูปแบบนี้ทั้งนั้น ในอนาคต เราจึงต้องเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และประยุกตฺให้เข้ากับการทำธุรกิจในอนาคตครับ



สวัสดี