วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ ทำยังไง? (2)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



         ขั้นตอนถัดมาเมื่อเรียนรู้กลยุทธของธุรกิจแล้ว  ก็ต้องค้นหาว่าใคร คือ กลุ่มเป้าหมาย  เกี่ยวกับผู้บริโภคที่อยากใช้สินค้าที่ดี  มีคุณภาพ  มีความสะดวก ปลอดภัย  สั่งซื้อได้ง่าย  แล้วต้องค้นหาให้เจอว่า ลูกค้าเป็นคนคนกลุ่มใหน  เช่น กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนท  กลุ่มที่ชอบเดินตามห้างสรรพสินค้า  กลุ่มเดินตามถนนตลาดนัด  หรือ กลุ่มคนเมือง  กลุ่มคนต่างจังหวัด เป็นต้น



          ที่สำคัญเลยคุณต้องรู้่  ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไร    มีปัญหาอะไร  อยากได้อะไรที่จะทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุข ปลดเปลื้องความทุกข์  หรือ ขยับเข้าไปใกล้ความอยากไ้ด้ อยากมี  อยากเป็นคนประสบความสำเร็จ  ยกตัวอย่างเช่น  อยากผิวดี ผิวขาว  อยากผอม สวย  หุ่นดี  อยากสุขภาพดี  อยากสบาย  อยากรวย  อยากเลิกทำงานประจำ  อยากเป็นอิสระ ฯลฯ

           เพราะว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายมีความอยากได้สิ่งที่เขาต้องการ  เขาก็ต้องทำการค้นหาสิ่งเหล่านั้น หรือ เสาะแสวงหา เครืองมือ  วิธีการ  สินค้า และบริการต่าง ๆ  ที่มีในท้องตลาด  เมื่อเขาสามารถค้นหาิสิ่งที่เขาพบ  หรือ  บุคคลที่สามารถแก้ปัญหา  หรือรู้วิธีการ  มีสินค้า หรือ บริการ  ให้กับเขาได้  เขาก็จะเกิดความเชื่อใจ ไว้ใจ  บุคคลนั้น  และเพิ่มความมั่นใจในการแก้ปัยหาให้เขา  แน่นอนเขาก็สามารถที่จะตัดสินใจซื้อ  หรือใช้สินค้านั้น ๆ   คุณจะได้รู้่ว่า  คุณจะทำธุรกิจกับคนั้น ๆ คุณจะต้องมีสินค้าและบริการในสิ่งที่เขาอยากเห็น  อยากใช้  หรือที่เขาต้องการ  และคุณก้ต้องมอบให้กับเขาได้ด้วย



           ดังนั้น  สิ่งที่คุณควรที่จะพัฒนาตนเอง  ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าก็คือ  การทำตนให้มีคุณค่าให้ตรงกับปัยหาของกลุ่มเป้าหมาย  ให้เข้าใจ  และเข้าถึง  แสดงตนเป็นผู้ให้  ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  เพื่เสริมสร้างความศรัทธา เชื่อถือ
          เมื่อนั้น  คุณจะอยู่ในฐานะผู้กำหนดมาตราฐาน เป็นผู้นำ  ผู้คนจะต่อคิวคุณ เข้ามาหาคุณ  รอรับบริการจากคุณ 

          ในที่นี้ขอยกตัวอย่างในสิ่งที่คุณต้องทำ  ดังนี้

           1. ทำตัวเองให้เป็นที่รู้จัก  มักคุ้น   ทำอย่างไร  คุณอาจต้องเดินทางไปสัมมนาในงาน  หรือ นิทรรศการต่าง ๆ  จัดบูทสินค้า  จัดอีเวนท์  ปาร์ตี้  เพื่อเข้าสังคมและเครือข่าย  หรือ ใช้วิธีสร้างเวบไซต์ในอิินเตอร์เนท  แล้วโปรโมทตนเอง ด้วยวิธึการต่าง ๆ  ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแบบให้เลือกใช้

           2. ทำตัวเองให้มีคุณค่า น่าเชื่อถือ  และนี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องค้นหา  สร้างมันขึ้นมา  และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  โดยให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย  มากที่สุด เช่น  การใช้โปรไฟร์  ในอินเตอเนทเป็นตัวจริงหน้าจริง  ที่อยู่จริงทั้งหมด

           สุดท้าย  สิ่งที่เราไม่ถนัด เราไม่ควรที่่จะเรียนรู้และใช้ในการเริ่มต้น เป็นอันขาด  ซึ่งจะเป็นการเสียเวลามากเกินไป   บางอย่างต้องใช้คนอื่นที่มีความถนัดแทนเรา  เราควรจะทำสิ่งที่เราถนัดและชำนาญ  ส่วนที่เหลือ  ก้ดึงมืออาชีพที่มีความสามารถมาร่วมธุรกิจเพื่อต่อยอดความสำเร็จต่อไป


           ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ      
                 


วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ ทำยังไง? (1)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


          ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจเป็นช่วงที่ท้าทายมากที่สุด  เพราะว่าเราจะต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ คุณว่าใหมครับ  จากประสบการณ์ของการพบปะติดต่อ  พูดคุย  กับนักธุรกิจหน้าใหม่นั้น  ทำให้พบกับประเด็นน่าสนใจมากมาย  ที่อยากจะนำมาเผยแพร่  เพื่อให้เกิดประโยชน์กับนักธุรกิจท่านอื่น ๆ  บ้างไม่มากก็น้อย ครับ...
          คำถามว่าเริ่มธุรกิจใหม่ให้ประสบความสำเร็จ อย่างไร  นั้น   คำตอบ อาจจะไม่ตรงประเด็นซะทีเดียว เนื่องด้วยพื้นฐานประสบการณ์ของผู้เริ่มธุรกิจของแต่ละคนไม่เท่ากัน  อีกทั้ง มีแรงบันดาลใจ  และ ทักษะ  ความถนัดก็ไม่เหมือนกัน  แต่ก็จะขออธิบายคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้ครับ

          หลักการก็คือ  การที่ใครจะไว้ใจในตัวคุณ  เข้าร่วมธุรกิจกับตัวคุณ  อยากซื้อสินค้าของคุณ  หรืออยากใช้บริการต่าง ๆ ของคุณ   ตัวคุณเองต้องมีคุณสมบัติดังนี้ซะก่อน คือ...
          1.  ต้องรู้จักตัวคุณ   คือ  ตัวคุณต้องสร้างความน่าสนใจ  ทำตัวคุณเองให้เป็นที่รู้จัก  อยู่ในสายตาของคนอื่นในวงกว้าง
          2.  มีความชื่นชมหรือชื่นชอบ ในตัวคุณ  โดยการทำตัวของคุณให้มีคุณค่าพัฒนาตนเองที่สามารถเป็นแบบอย่างได้  เช่น  เป็นผู้มีความรู้  เป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน  มีความเป็นผ้นำ  
          3.  มีความศรัทธา เชื่อถือในตัวคุณ   มีความเชื่อมั่น  มั่นใจว่าคุณเป็นคนดี  เชื่อใจคุณและไว้วางใจคุณได้   สามารถทำตามเป็นต้นแบบ ในการเดินทางสู่เป้าหมายได้



          เมื่อได้แนวคิดแล้ว  ก่อนนำไปประยุกต์ใช้งานจริง  คุณก็ต้องมีการคิดกลยุทธ์เสียก่อนว่า  เรานั้นจะต้องใช้วิธีการแบบใหน  สำหรับธุรกิจเครือข่าย อาจจะเป็น การสร้างนักธุรกิจเครือข่ายไปเรื่อย ๆ  แล้วก็สร้างระบบเพื่อให้พวกเขาทำตาม หรือ ว่าจะใช้วิธีการหาผู้บริโภคสินค้า มาก ๆ ทำให้มีกำลังซื้อสูง เพื่อเ่ิพิ่มปริมาณการใช้สินค้าของตัวท่านเองเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากสินค้าใช้แล้วดี เห็นผลจริง  เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวคุณอย่างมั่นคง

          นี่คือความคิด  ในเชิงกลยุทธ์  สำหรับนักธุรกิจเครือข่าย เพื่อใช้ในการวางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำ  เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในลำดับต่อไปครับ



         ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ ;)




สวัสดีครับ         


         


วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาที่ทำให้การทำเครือข่ายไม่สำเร็จ



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


           วิธีการทำธุรกิจเครือข่ายนั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้วิธีใหนเท่านั้นเอง  มีผู้ถามคำถามว่าเขาเคยศึกษาวิธีการมาจากอัพไลน์ กับ การทำธุรกิจแบบ  Attraction Marketing  นั้น แบบใหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน  

           สิ่งที่เป็นคำตอบก็ คือ  ทั้งสองแบบมีข้อดี ข้อด้อย คนละแบบ  ซึ่ง  การทำแบบ  Attraction Marketing  นั้น คือ  การตลาดแบบดึงดูด  เป็นการเน้นให้กลุ่มเป้าหมาย หรือ ผู้มุ่งหวังที่สนใจธุรกิจของคุณ และเดินเข้ามาหาคุณเอง  อยากทำธุรกิจกับคุณ  ไม่ใช่การตามตี้อไล่ล่ากลุ่มเป้าหมาย หรือ ผู้มุ่งหว้งของคุณ  ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจในขณะนี้




           ปัญหาก็ คือ ผู้ถามนั้นยังไม่ได้เริ่มทำการตลาดวิธีใด ๆ  เลย ถึงแม้ว่า เขามีการจะศึกษา และเรียนรู้ กลวิธีในการทำการตลาดมาอย่างมากมาย  โอกาสทางธุรกิจก็มี  วิธีการทำก็มีหลากหลายต่าง ๆ นา ๆ

          จริง ๆ แล้วปัญหาอยู่ที่ตัวของเขาเอง ที่ยังไม่ได้ลงมือกระทำอย่างจริงจัง อะไรสักอย่าง  ซึ่ง  ขนาดคนที่ทำจริงจัง มุ่งมั่น  มีความมุุมานะเต็มที่ถึง  100 %  ยังทำไม่สำเร็จทุกคนเลย  แน่นอนสิ่งที่ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมักพูดเสมอว่า  "มันไม่ยาก"  แต่คนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จจะมองว่า มันน่าเชื่อได้มากแค่ใหนกับคำพูด  เพราะว่าเขาเหล่านั้น ได้ประสบความสำเร็จกันไปแล้ว

           ทำไม?...  ผู้นำบอกไม่ยาก  ก็เพราะว่า  สิ่งที่ได้ปฏิบัติกันมา จนประสบความสำเร็จนั้น เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้และเริ่มลงมือทำได้จริงทั้งนั้น   ไม่มีใครรู้มาตั้งแต่เกิด  แต่ต้องมาเรียนรู้ และฝึกฝน  และปฏิบัติอย่างจริงจังไม่ย่อท้อ   ความรู้ ก็คือ แค่รู้  ส่วน ทักษะ คือการปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งต้องผ่านการทำแบบซ้ำ ๆ จน เคยชินเป็นธรรมชาติและเกิดความชำนาญ  ถ้าขาดการปฏิบัติเสียแล้ว จะมีแค่รู้  แต่จะไม่มีทักษะ  ก็จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย   เพราะว่ารู้อย่างเดียว  ไม่ได้ลงมือทำเลย

           คนที่จริงจัง  กระตือรือร้น  และมีความกระปรี้กระเปร่า  จะมีความอยากทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นให้สำเร็จเสร็จสิ้น ไม่ว่าจะมองไปทางใหนก็ มีแต่สิ่งที่อยากรู้  อยากทำ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็จะรีบทำ  มีสิ่งใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ให้ทำไม่มีวันหมดสิ้น  ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่มีคุณค่า มีแต่คำว่า  "To Do List"  

           ส่วนคนที่เอื่อยเฉื่อย  เฉื่ยแฉะ  มีแต่การผลัดวันประกันพรุ่ง  อะไร ๆ  ก็ยากไปเสียหมด  ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีเงื่อนไขเยอะ   ได้แต่บอกว่า เดี๋ยวก่อน ยังไม่รู้  ยังไม่เป็น ฯลฯ  สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยสักอย่าง

          สรุปแล้ว การทำเครือข่ายให้สำเร็จ  ต้องเริ่มที่ตัวเอง  ซึ่งก็ คือ การเอาชนะตัวเอง  แล้วเริ่มลงมือทำ  ทำตามเป้าหมายและเส้นชัยที่วางเอาไว้  โดยคิดเสมอว่า  เราเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวของเราเอง  ไม่ใช่สถานการณ์ควบคุมเรา

          วันนี้คุณลงมือทำแล้ว หรือยังครับ




          ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความเร็จ



สวัสดีครับ          



วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหตุใดถึงมีการย้ายค่ายเปลี่ยนธุรกิจเครือข่าย


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


          เคยมีคนถามว่า  ทำไมธุรกิจเครือข่ายถึงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ  มีทั้ง  อาหารเสริม     วิตามินต่าง ๆ  ร้านเสื้อผ้า  คอนแทคเลนส์  วิกผม  ผลิตภัณฑ์ความงาม  การเติมเงิน และอีกหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์  ฯลฯ   จริงแล้ว  คนที่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายนั้น  ทำเพื่อขยายสายงานเครือข่ายสมาชิกให้มีรายได้มากขึ้น  มากกว่าการมีรายได้จากการขายสินค้าไหม...

          คำตอบก็คือ  เวลาที่ใครหลาย ๆ คน เริ่มทำธุรกิจเครือข่่าย และเมื่อทำไปนาน ๆ  ธุรกิจก็ดีมีรายได้เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ  ก็จะไม่มีใครอยากเปลี่ยนธุรกิจกันหรอกครับ  ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยอื่น เข้ามาเกี่ยวข้อง

          ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่พบก็คือ  มีรายได้ที่ลดลงเรื่อย ๆ  เนื่องมาจากลูกทีมเกิดทยอยเลิกทำตามกันเป็นทอด ๆ ทำให้แม่ทีมก็ต้องเปลี่ยนหาตัวใหม่มาทำ เพื่อรักาารายได้ให้เหมือนเดิม

          แล้วทำไมลูกทีมถึงได้เลิกทำ มันมีสาเหตุประมาณนี้

          1.  มีธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจกว่า  มีแรงจูงใจกว่า  ทำง่ายกว่า  ผลตอบแทนแผนรายได้ทางการตลาดดีกว่า  ก็เลยหันเหเข้าไปทำกับบริษัทใหม่กัน
          2.  เผอิญว่าธุรกิจที่กำลังทำอยู่นั้น  ไม่มีรายได้  หรือไม่ ก็รายได้น้อยจนเกินไป และ รายได้ไม่เพิ่ม  ซึ่งสวนทางกับรายจ่ายที่เ่ิพิ่มมากขึ้น จนไม่คุ้มที่จะทำต่อ





          จริง ๆ แล้วถามว่า  ถ้าลูกทีมของท่านทำธุรกิจแล้วมีรายได้ที่ดีถึงดีมาก อยู่แล้ว ต่อให้มีธุรกิจอี่น ๆ เข้ามา  ไม่ว่าผลตอบแทนจะดีแค่ใหนก็คงไม่มีใครอยากเปลี่ยนหรือ เลิกกันหรอกครับ แต่ว่าพอทำแล้วไม่มีรายได้  ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ  ไม่คุ้มค่า  จึงเลิกทำในที่สุด

           เพราะว่าธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ามา  มันก็คือ  โอกาสใหม่  การประสบความสำเร็จใหม่  ความหวังใหม่  ให้กับทุกคนที่อยากเริ่มต้นใหม่  ให้เกิดความกระตือรือร้น  ฮึกเหิม  กระปรี้กระเปร่า  หรือไม่ก็ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว  ได้ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีก...

           นักธุรกิจเครือข่าย  จึงต้องเข้าใจว่า  ไม่ว่าบริษัท หรือ ธุรกิจ  ผลิตภัณฑ์  และ  แผนรายได้  จะดีแค่ใหนก็ตาม  แต่ละที่นั้น ไม่ได้โกหกคุณเรื่องรายได้ที่มหาศาล  แต่มันกับอยู่ที่ตัวของผู้ทำธุรกิจเองที่จะสามารถทำได้แค่ใหน  จะประสบความสำเร็จตามแผนหรือไม่ นั่นต่างหากที่สำคัญที่สุด

           การที่ท่านนักธุรกิจเครือข่ายจะประสบความสำเร็จ หรือไม่  คำตอบจึงอยู่ที่  วิธีการทำการตลาด ซึ่งมีีวิธีการทำในรูปแบบต่าง ๆ  เช่น  การตลาดแบบดึงดูด (Attraction Marketing)  เป็นต้น  ซึ่งแม่ทีมที่ทำการตลาดเป็น หารรายได้เก่ง ต้องถ่ายทอดวิธีการให้กับลูกทีมจนสามารถพัฒนาเป็นแม่ทีมคนต่อไปให้ได้จึงจะสามารถ ทำให้ลูกทีมทำการตลาดเป็น และมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอในการทำธุรกิจต่อไปได้นี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดของธุัรกิจเครือข่าย


           ขอให้ท่านโชคดี  และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ 


          

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Why Unilever Network?



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


           ไม่ว่าคุณจะลุกขึ้นมาเป็นนายของเวลา  เป็นนายของตัวเอง  เพิ่มระะบบสำรองของชีวิต  หรือต้องการธุรกิจอิสระที่ให้ผลตอบแทน  คุ้มค่ากับความทุ่มเท  และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้

            ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค  มอบโอกาสที่แตกต่างในการเปลี่ยนแปลงสู่ชีวิตในฝันที่คุณปราถนา  ด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ให้อิสระภาพด้านการเงิน  และความยืดหยุ่น  ด้านเวลา  ทุกคนเริ่มต้นจากก้าวที่หนึ่ง และจากบันไดขั้นแรกเดียวกันสู่รายได้ไร้ขีดจำกัด  โดยไม่มีอุปสรรคจากระดับการศึกษา  อาชีพ  เพศ  หรือวัย  ด้วยการสนับสนุนอย่างรอบด้านให้คุณเติบโตธุรกิจจากอัพไลน์ของคุณ  และทีมงานระดับมืออาชีพของ  ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค  ด้วยความพรั่งพร้อมขององกรค์ยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์

             ในระหว่างการก้าวขึ้นสู่บันไดควาสำเร็จของแต่ละตำแหน่งทางธุรกิจ  นอกจากที่คุณจะได้รับผลตอบแทนในรูปของคอมมิชชั่นในแต่ละเดือนจากการ  นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง  และโดอกาสทางธุรกิจแล้ว  คุณยังมีโอกาสได้รับรางวัลตอบแทนอื่น ๆ อีกมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นโบนัสเงินสด  รางวัลท่องเที่ยวระดับวีไอพี  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  รวมทั้งสัมมนาพิเศษต่าง ๆ   จากผลงานทางธุรกิจ

              ธุรกิจ  ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค  ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในด้านการเงิน  การพัฒนาศักยภาพ  การเติบโตสู่การเป็นผู้นำแบบครบมิติ   และอิสระด้านการเงินและเวลาเพื่อให้คุณได้มีไลฟ์สไตล์อิสระอย่างที่ต้องการ

4 เสาแกร่งเพื่อการเติบโตธุรกิจ  ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คของคุณ

             1. ธุรกิจแนวใหม่  ด้วยแนวคิดธุรกิจเครือข่ายที่มีหลากหลาย  เครื่องมือทางธุรกิจ (Multi - Channel Business Solutions: MCBS)  ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค  เปิดโอกาสให้คุณได้เป็นเจ้าของธุรกิจอิสระที่มี่ศักยภาพในการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด  สามารถสร้างองค์กรนักธุรกิจอิสระเช่นเดียวกับคุณได้กับหลากหลายกลุ่มบุคคล  เพื่อฐานการเติบโตทั้งด้านรายได้  และองค์กรที่ยั่งยืน





             2.  ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมระดับพรีเมียม  นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชั้นสูง  อาวียองซ์  ผลงานจากเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกของ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ด้วยส่วนผสมประสิทธิภาพสูงผนวกกับวิทยาการล่าสุด และผลการทดลองทางคลีนิคที่พิสูจน์ประสิทธิภาพได้จริง





             3.  ยูนิลีเวอร์ เนทเวิร์ค อะคาเดมี่  สถาบันการเรียนรู้และฝึกอบรมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดความรู้แบบ  360 องศาอย่างเป็นระบบ  และมีประสิทธิภาพ  เพื่อมุ่งพัฒนา  ศักยภาพและความเป็นผู้นำของผู้ร่วมธุรกิจ  เพื่อให้ประสบความสำเร็จรอบด้าน  โดยการร่วมมือกับสถาบัน  และองค์กรด้านฝึกอบรมชั้นนำของประเทศ





             4.  ผลตอบแทนทางธุรกิจ และรางวัลท่องเที่ยว  รับรายได้ที่คุ้มค่าจากแผนปันผลตอบแทนที่สร้างพลังรายได้ไร้ขีดจำกัด  จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง  และโอกาสทางธุรกิจ  สามารถสร้างเป็นธุรกิจที่มั่นคงและส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกได้  นอกจากนี้  ยังได้รับรางวัลสัมมนาท่องเที่ยวระดับหรูทั้งต่างประเทศและในประเทศ  จากผลงานทางธุรกิจ




          ขอให้ทุกท่านโชคดี



สวัสดีครับ




วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ความแตกต่างของบุคคล 3 แบบ



สวัสดีครับ


              เคยคิดกันบ้างใหมว่าเหตุใด จึงมี ความแตกต่าง ระหว่าง  คนจน  คนชั้นกลาง และคนรวย ซึ่งความแตกต่างแบบนี้จะยังคงมีอยู่ตลอดไป  ตราบใดที่อุปนิสัยของการใช้ชีวิต และสไตล์ การใช้จ่ายในชีวิตของคนแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน และสามารถคาดเดาฐานะทางการเงินในอนาคตต่อจากนี้ได้ว่าจะเป็นอย่างไรอีกด้วย
              ความเป็นจริง ที่คุณควรทราบก็คือ ว่า ทำไมเราจึงสงสัยกันมานานแล้ว ทำไมคนรวยจึงรวยขึ้น คนจนก็ยิ่งจนลงเรื่อย ๆ   แล้วคนชั้นกลางล่ะ ทำไมถึงดำรงสถานะย่ำอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับขึ้นเป็นคนรวยได้สักที  เพราะว่าวิธิคิดและการเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนคนรวยนะสิ
              แน่นอนว่าหากเราไม่ทำการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต  ทุกอย่างก็จะยังวนเวียนอยู่อย่างนั้นตลอดไป
               ฉนั้นเรามาหาสาเหตุของ ฐานะทางการเงินกันดีกว่าครับ  ใช่แล้ว  "การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนั่นเอง"   โดยเฉพาะช่วงที่มีเงินมากที่สุด  ช่วงใหนหรือครับ  ก็ช่วงเงินเดือนออกนั่นแหละครับ มาดูกันซิว่าคุณใช้เงินเดือนจ่ายอะไรออกไปบ้าง




การใช้จ่ายที่ดี มีที่มา

               คนจน  ใช้เงินไปกับการซื้อของที่ไม่ค่อยจำเป็น หรือจำเป็นน้อย  ต่อการดำรงชีวิต  ได้แก่  เสื้อผ้าที่ใส่บ้างไม่ใส่บ้างแต่ก็ซื้อมาจนล้นเต็มตู้  หนังสือที่อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง  การเสี่ยงโชค  เล่นหวย ซื้อลอตเตอรี่  การพนันรูปแบบต่าง ๆ  ฯลฯ   การใช้เงินที่หามาได้แบบเดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บ
               ข้ออ้างที่ใช้ก็คือ  สิ่งที่ซื้อนั้น คือ มันมีราคาไม่แพงเลย

               คนชั้นกลาง  มีความคิดว่า ฐานะดีมีรายได้ประจำมั่นคง  ไม่เปลี่ยนแปลง จึงนำรายได้ของตัวเองไปซื้อในสิ่งที่เป็นหนี้สิน ที่ขังตัวเองอยู่กับที่ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่จะสร้างรายได้  เช่น  บ้าน รถยนต์  คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์มือถือ  ชุดเอนเทอร์เทนเมนต์ (ทีวีจอยักษ์  เครื่ิองเสียงครบชุด)  บัตรเครดิต  สิ่งเหล่านี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเพิ่มรายได้ มีแต่จะเป็นหนี้สินที่มากขึ้น ๆ จนสุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะควบคุมการใช้จ่ายได้
               นี่จึงเป็นสาเหตุที่ชนชั้นกลาง มีความรักในงานประจำไม่กล้าเปลี่ยนแปลง  ต้องการความมั่นคงในอาชีพการงานตลอดไป  ไม่ก้าวออกมาทำธุรกิจส่วนตัว  ก็เพราะว่าก็รายได้ไม่คงที่ทำให้ไม่สามารถมีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้นั่นเอง
               คนรวย  เมื่อมีรายได้เข้ามา สิ่งแรกเลย ก็จะนำไปซื้อทรัพย์สิน  ซึ่งสามารถใช้ในการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นมากขึ้น ๆ ก็นำรายได้นั้นไปลงทุนต่อยอดความร่ำรวยให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด



               พอถึงตรงนี้คุณก็ รู้ความแตกต่างนั้นแล้ว ทุกอย่างมีทางออก  สำหรับคนจน และคนชั้นกลาง ก็สามารถเป็นคนร่ำรวยได้ โดยคุณก็ต้องรู้สูตรสำเร็จในการเป็นคนรวย คือ การสร้างทรัพย์สิน การซื้อทรัพย์สิน  และเพิ่มทรัพย์สิน นั่นต่างหาก คือสิ่งที่ทุกคนชนชั้นปราถนาไม่ใช่หรือ

              รายได้      คือ   เงินที่หามาไ้ด้              
              รายจ่าย    คือ  เงินที่คุณจ่ายออก
              ทรัพย์สิน  คือ  สิ่งที่สร้างรายได้ต่าง ๆ ให้กับตัวคุณ
              หนี้สิน       คือ  สิ่งที่ทำให้คุณต้องเสียเงินไป

          ขอให้ท่านโชคดี
     

สวัสดี


วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ก้าวสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา


สวัสดีครับนัักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


          เรื่องของ  ก้าวสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา   แบ่งออกเป็น  3  ก้าว  ถือได้่ว่า เป็นเคล็ดลับความสำเร็จที่สำคัญ ของเหล่ากูรู ด้านการตลาดออนไลน์ทั่วโลกได้มาแบ่งปันกัน 
          ซึ่งแต่ละก้าว นั้นก็ เปรียบเสมือนการพายเรือข้ามฝั่งไปสู่จุดหมายข้างหน้า  สิ่งที่เราต้องทำก็คือ  การตัดสินใจที่แน่วแน่ว่า เราต้องการก้าวไปข้างหน้า  มุ่งไปยังเส้นทางตรงหน้า   มีความพยายามในการพายเรือให้ผ่านไปได้ตลอดรอดฝั่ง  มีการแก้ปัญหา  หรือ การทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวข้ามไปยังอีกฝั่งที่อยู่ตรงหน้าที่เป็นเป้าหมาย




           ที่แน่นอนก็คือ  ทุกคนที่ต้องการที่จะมีอิสระภาพทางการเงินและเวลา  คงไม่ใช่ผู้ที่มีรายได้จากงานประจำที่ทำอยู่ในสภาพมนุษย์เงินเดือนอย่างแน่นอน   แต่จะต้องก้าวมาจากการเป็นนักธุรกิจ หรือ นักลงทุน  ซึ่งการที่จะก้าวมาอยู่ฝั่งนี้ได้ จะต้องผ่านขั้นตอนสำคัญ  3  ประการเสียก่อน  ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ   อันได้แก่ 
            1.  การตัดสินใจที่แน่วแน่  ว่าเราต้องการประสบความสำเร็จ  ต้องการค้นหาเส้นทางแห่งการมีอิสระภาพทางการเงินและเวลา 
            2.  คำสัญญาที่ให้กับตัวเอง  ที่ไม่ไ้ด้ให้กับใคร  คำสัญญาที่บอกกับตัวเองว่า เราจะมุ่งมั่น  ไม่ย่อท้อ  ไมล้มเลิกระหว่างทาง  ไม่ว่าเราจะพบเจอกับปัญหา หรือ อุปสรรคขัดขวาง ใด ๆ ก็ตาม 
            3.  ค้นหาหนทางและ วิธีการ  พิชิตเป้าหมายที่วางเอาไว้ ให้ได้  ซึ่งไม่เป็นการยาก  หากเราทำตามแนวทางของ รุ่นพี่ ที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้  ด้วยสูตรสำเร็จ  และ เคล็ดลับต่าง ๆ ที่ได้ถ่ายทอดกันมา  

                      การมีโค้ชที่ดี คือ การมีผู้ฝึกสอนหรือ พี่เลี้ยง ที่เก่ง มีประสบการณ์
                      การทำแบรนด์ตัวเอง  คือ การสร้างคุณค่าของตนเอง
                      การมีหุ้นส่วนที่ดี  คือ การหาคนเก่งหรือ มีความสามารถมาร่วมทีม

          คุณพร้อมที่จะก้าวให้ครบทั้ง 3  ก้าว หรือไม่

          "ถ้าคุณพร้อมแล้ว...  ขอเพียง  3  ก้าวเท่านั้น"
          เริ่มก้าวแรกด้วยการตัดสินใจทันที 
          และก้าวต่อไปด้วยคำสัญญาของตัวคุณเอง
          ตามต่อด้ายก้าวสุดท้าย  ค้นหาหนทางไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ



          ขอให้ทุกท่านโชคดี  และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ




วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ก้าวแรกสู่ความสำเร็จกับ Unilever network



สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


           5 ปัจจัยในทางเลือกก้าวแรกสู่ความสำเร็จของธุรกิจเครือข่าย


  1. บริษัท Unilever  ทุนจดทะเบียนในประเทศไทย  2,000  ล้านบาท  อยู่ในสมาคมขายตรง  TDSA  ( ในไทยมีประมาณ  30  บริษัท จากพันบริษัท)  แผน  stair step breakaway plan
          TDSA  ขึ้นตรงกับสมาพันธ์ระดับโลก  ซึ่งมีเงื่อนไขบังคับ  
          (ทาง  TDSA  ไม่อนุมัติแผน  binary  เพราะมองว่าจ่ายไม่ยุติธรรม)

     2.   ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Unilever network  มีนวัตกรรมใช้แล้วเห็นผลจริง  claim  ได้
           ซึ่งที่อื่น  ไม่สามารถ  claim ได้

     3.   แผนการตลาด (แผนปันผล)  เป็นธรรมชาติ  จ่ายบนการทำงานจริง  ไม่เก็บไม่กั๊ก

     4.   ระบบ  =  เครื่องมือทุ่นแรงการทำงานที่สามารถ  copy  ได้  100 %
          Unilever  network   ลงทุนชั้น  11 - 12  ที่  SCB RARK ไป  40  ล้านบาท
          และภายใน  2  ปี  เปิดสำนักงานใหญ่ บนเนื้อที่  2,000  ไร่  หลัง เซ็นทรัลพระราม9

     5.  Coach  ที่ประสบความสำเร็จแล้วจากหลากหลายอาชีพ
          เศรษฐีหลายร้อยชีวิตที่ได้รับรายได้จากธุรกิจ  Unilever  network




      ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ




สวัสดี    





การหาและการสร้าง "ผู้นำ" ในเครือข่าย (2)



สวัสดีครับ


                หากการมีผู้นำเป็นสุดยอดปรารถนาแล้ว  เราจะทำอย่างไรให้มีผู้นำในเครือข่ายของเรา?

               ทางเลือกที่ 1.  มองหาผู้นำจากบริษัทคู่แข่ง  แล้วพยายามชักชวนให้เขามาเป็นสมาชิกของคุณ มันง่ายและสะดวกที่สุด  แค่เสนอเสนอผลตอบแทนที่ดีกว่าให้แก่เขาทั้งสะดวกและรวดเร็ว!  ไม่ต้องลงทุน  ไม่ต้องสอน  ไม่ต้องอบรม  ไม่ต้องรอเวลาให้เขาพัฒนาผู้นำใหม่ของท่าน  คงมีเครือข่ายสำเร็จรูปอยู่แล้วที่จะสามารถย้ายค่ายตามเขามาในทันที  มีปัญหาอยู่เพียงนิดเดียว  หากท่านสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาย้ายค่ายมาเป็นลูกทีมของท่านได้โดยการให้ข้อเสนอที่ดีกว่า  แล้วผู้นำใหม่ของท่านจะไม่คอยมองหาคู่แข่งค่ายอื่น ๆ ที่จะให้ข้อเสนอที่ดีกว่าท่านหรือ

               ทางเลือกที่ 2.  คือพยายามสร้างและปลูกผู้นำด้วยตัวท่านเอง หมายถึง  การควานหาตัวบุคคลที่มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จแล้วมอบเวลาและความรู้ความสามารถให้เขาได้เติบโต  และพัฒนาเป็นผู้นำที่ดีในธุรกิจเครือข่าย  วิธีนี้ใช้เวลา ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ข้ามคืน  ท่านอาจต้องใช้เวลากับหลาย ๆ คนที่ดูเหมือนจะมีโอกาสในการเป็นผู้นำที่ดี  เพียงเพื่อจะได้ผู้นำที่ดีเพียงคนเดียว  แล้วเราจะพัฒนาเขาอย่างไร? 




              ต่อไปนี้เป็นวิธีการของแม่ทีมในสหรัฐที่สร้างผู้นำในเครือข่าย  1  คน ทุก ๆ ปี

              *  อันดับแรก    เขาควานหาผู้ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จอย่างแรงกล้า  บางทีบุคคลนี้อาจไม่มีความสามารถ  ไม่มีสติปััญญาที่เฉียบแหลม  ดูเหมือนจะต้องได้รับการพัฒนาอีกมากมายมโหฬาร  แต่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ  สิ่งที่สำคัญคือ  เขาปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ

              * อันดับที่สอง    เขาขอให้สมาชิกใหม่ให้คำมั่นสัญญา ในการดำเนินธุรกิจระยะยาว  เขาเน้นถึงการลงทุนของเขาในตัวสมาชิกใหม่ว่า เขากำลังลงทุนด้วยแรงและเวลา  ว่าเขากำลังทุ่มเทความรู้ความสามารถของเขาทั้งหมดในการพัฒนาสมาชิกใหม่ให้ประสบความสำเร็จด้วยการมีผู้นำที่มีประสิทธิภาพคอยสนับสนุน  เขาคอยเป็นพี่เลี้ยง คอยเป็นอาจารย์  โอกาสในการประสบความสำเร็จของสมาชิกใหม่นั้นค่อนข้างจะแน่นอน
             * อันดับที่สาม   เริ่มต้นทำงานกับสมาชิกในฐานะพี่เลี้ยง  คอยดูแลเอาใจใส่และเป็นผู้ร่วมงาน  โดยการทำงานกันอย่างใกล้ชิด  ออกตลาดด้วยกัน แนะนำสินค้าด้วยกัน   แนะนำโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน  แบ่งหน้าที่กันในการจัดประชุมสัมมนา  เข้ารับการอบรม  พัฒนาแนวทางการดำเนินงาน  และร่วมเดินทางด้วยกัน  ในการขยายตลาดต่างจังหวัดในระยะเวลา  6 เดือนแรก  ดูเหมือนเขาคู่นี้เป็นฝาแฝดกัน

              เวลาผ่านไป  6 เดือน... สมาชิกใหม่เรียนรู้ทุกอย่างที่ผู้แนะนำธุรกิจของเขารู้  รวมทั้งทักษะและความรู้ในการดำเนินธุรกิจที่ได้รับจากแม่ทีมของผู้แนะนำ รวมทั้งความรู้ที่ได้จากการอบรมของบริษัท  เขาเรียนรู้ทุกอย่างที่ผู้แนะนำเขารู้ หรืออาจมากกว่า  ผู้นำคนใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้เกิดขึ้นแล้ว  ผู้นำที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแม่ทีมของเขาเอง!  แล้วท่านจะรุ้สึกอย่างไร  ที่มีลูกทีมเป็นผู้นำที่มีความสามารถมากกว่าท่านเกิดขึ้นในเครือข่าย   ไม่เพียงแต่เป็นความรู้สึกที่ดี แต่ยังทำเงินให้ท่านได้อย่างมากมายอีกด้วย

            ท่านจะรู้สึกอย่างไรหากมีลูกทีมอย่างนี้  10 คน และลูกทีมทั้ง  10 คนนี้มีความสามารถมากกว่าท่าน?   รวย...รวย...และรวยมาก!!!




สวัสดี



           

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กาแฟอินทรีย์รักษาป่า


สวัสดีครับ

             ผมคิดว่าเกือบทุกท่านนั้นชอบดื่มกาแฟ  หนึ่ง อาจติดใจในกลิ่นความหอมกรุ่นของกาแฟ  สอง อาจเพื่อเพื่มความกระปปรี้กระเปร่าให้กับตัวเอง  หรือ บางคนบอกว่า ขาดกาแฟแล้วจะทำงานไม่ได้เลยจะรู้สึกง่วงซึมตลอดเวลา  เวลาได้ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ใช่แล้ว!  นั่น คือ อาการของคอกาแฟ ที่ขาดกาแฟไม่ได้เลยทีเดียว
             ถ้าเรากินกาแฟแล้ว มีส่วนในการรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยล่ะ จะรู้สึกดีขนาดใหนล่ะครับ   ผมขอเสนอ บทความ ของกาแฟรูปแบบใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมดังนี้ครับ       
             "มีวนา" กาแฟอินทรีย์รักษาป่า  ผลิตภัณฑ์ชั้นยอดจากกิจการเพื่อสังคม“กรีนเนท เอสอี” ถูกใช้เป็นกลยุทธ์ในการอนุรักษ์ป่าไม้ และสร้างเงินให้กับชุมชน


                     กาแฟหอมๆ ที่ส่งกลิ่นทักทายกันตั้งแต่แรกพบ

              เจ้าของรางวัลแผนธุรกิจเพื่อสังคมดีเด่น จากสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) และรางวัล Best Quality Award จากการประกวดกาแฟคุณภาพ ในงาน Thailand Coffee, Tea and Drink 2013 ที่ผ่านมา
              ความโดดเด่นของแผนธุรกิจและชัดเจนในประเด็นเพื่อสังคม ทำให้ กรีนเนท เอสอี ได้เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการสังคม ที่ขึ้นเวทีเสวนา "กิจการเพื่อสังคมกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร" ในงาน "สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยน่าอยู่" ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
“นี่คือกาแฟอินทรีย์รักษาป่า”
              เจ้าบ้านแนะนำผลิตภัณฑ์แบรนด์ “มีวนา” (Mivana) ก่อนขยายความเป็นภาษาอังกฤษว่า “Organic forest coffee” ซึ่งอาจแปลกหูไปบ้างจากชนิดของกาแฟ “พื้นๆ” ที่ใครหลายคนเคยคุ้น
ที่น่าสนใจไปกว่าชื่อ คือกาแฟที่ว่านี้ถูกใช้เป็นกลยุทธ์ในการอนุรักษ์ป่าไม้ และสร้างเงินให้กับชุมชนได้อย่างเยี่ยมยอด
              “เวลาเพียง 50 ปี พื้นที่ป่าไม้ในเมืองไทยลดลงกว่าครึ่ง จากประมาณ 171 ล้านไร่ ในปี 2504 คงเหลืออยู่เพียง 73 ล้านไร่ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการพื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน และวิถีเกษตรแผนใหม่ยังใช้สารเคมีรุนแรง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ”
              นั่นคือที่มาของการศึกษาหาเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา จนพบว่ากาแฟซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจชั้นยอด เป็นพืชที่ต้องการร่มเงาสูง และสามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ใต้ร่มไม้ นั่นทำให้สามารถเพาะปลูกในป่าได้โดยที่ไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า และกาแฟอินทรีย์ที่ปลูกในป่านี้ยังให้คุณภาพชนิดดีเลิศ มีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่ากาแฟกลางแจ้ง ซึ่งผู้ผลิตกระหน่ำใช้สารเคมีด้วยซ้ำ
              พวกเขาจึงได้เริ่ม โครงการส่งเสริมกาแฟอินทรีย์เพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืนขึ้น ที่ชุมชนต้นนํ้าแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2553 ก่อนขยายพื้นที่ไปยังป่าต้นนํ้าแม่กรณ์ ตำบลวาวี จังหวัด เชียงราย รวมเกษตรกรทั้งหมด 11 กลุ่ม มีสมาชิกกว่า 300 ครอบครัว นับถึงวันนี้รวมพื้นที่ส่งเสริมกาแฟอินทรีย์รักษาป่าไปแล้ว 9,000 ไร่ โดยตั้งเป้าจะขยายเป็น 15,000 ไร่ ภายใน 5 ปี และ 20,000 ไร่ ภายใน 10 ปี
              วิธีการทำงานของทีมกาแฟรักษาป่า เริ่มจากให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกัน จากนั้นก็จัดอบรมการทำกาแฟอินทรีย์ อบรมและจัดทำระบบมาตรฐานกาแฟอินทรีย์ จนไปสู่การแปรรูป การบริหาร และการจัดการธุรกิจชุมชน มีระบบการค้าที่เป็นธรรม (fair trade) ที่ช่วยให้เกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรมในการขายผลผลิต และยังมีเงินพรีเมี่ยม (Fair Trade Premium) ที่มีข้อกำหนดในการคืนสู่ชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การสร้างห้องสมุด สนามเด็กเล่น การพัฒนากลุ่มหรือชุมชน เหล่านี้เป็นต้น
              จากนั้นก็ได้ก่อตั้ง “บริษัท กรีนเนท เอสอี จำกัด” ขึ้น ทำหน้าที่ส่งเสริม พัฒนา การผลิต และจัดจำหน่ายผลผลิตจากโครงการฯ เพื่อให้เป็นกิจการที่ทำงานได้อย่างคล่องตัว ก้าวหน้า และยั่งยืน กว่ารูปแบบมูลนิธิหรือสหกรณ์อย่างในอดีต
              ตลอดการทำงานไม่มีอะไรง่าย และสิ่งที่ท้าทายพวกเขา คือทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมา มีคุณภาพเป็นต่อคู่แข่งในตลาดได้ เป็นสินค้าที่คนเลือกซื้อ เพราะอยากซื้อ เพราะพอใจในคุณภาพ ไม่ใช่จำใจซื้อเพราะ “ความสงสาร”
              “สินค้าที่นำเสนอออกมานั้น ต้องมีจุดแข็งและผ่านการคิดนอกกรอบมาแล้ว และต้องเป็นของที่มีแก่น มีคุณภาพจริงๆ เราต้องตั้งเป้าในแง่นี้ให้ได้ เพราะสมมติถ้าของออกมาไม่ดี ไม่นานมันก็ตาย ดังนั้นเริ่มต้นเลยคือผลิตภัณฑ์ต้องดี เสร็จแล้วสิ่งที่ตามมาคือ แผนธุรกิจ แผนการตลาด ก็ต้องดีด้วย ต้องเอาวิธีการในโลกทุนนิยม มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจของเรา”
               เขาบอกผลึกความคิดก่อนขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมน้องใหม่
               ที่มาของความพยายามหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ส่งเกษตรกรไปเรียนรู้การปลูกกาแฟในต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสังคมที่มีอยู่ทั่วโลก ไปเรียนรู้ทักษะในการประกอบธุรกิจจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ตลอดจนสร้างคนในองค์กรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านกาแฟ แม้วันนี้ กรีนเนท เอสอี จะมีพนักงาน เพียง 11 คน แต่ก็รวบรวมเอาคนเก่งๆ ไว้รอบด้าน ทั้งนักเรียนนอก นักชิมกาแฟ และนักคั่วกาแฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐานมาจากสถาบันระดับโลกก็มีรวมตัวอยู่ที่นี่
               มีผลิตภัณฑ์ดี มีจุดแข็งและจุดต่างในตลาด ซึ่งเขาย้ำว่า ไม่ใช่แค่ “กาแฟอินทรีย์ และ fair trade” แค่สองจุดแข็งนี้ “ไม่พอ” เพราะตลาดโลก มีผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์ และ fair trade เจ้าใหญ่อยู่ที่ อเมริกาใต้ และแอฟริกา ดังนั้น “มีวนา” จึงต้องโดดไปไกลกว่าจุดนั้น นั่นคือ การเป็นกาแฟที่แก้ปัญหาของเกษตรกร และเป็นการรักษาป่าไม้ไปพร้อมกัน
               บนสโลแกน Better taste, Better life, Better earth
               จากนั้นก็ต้องวางแผนด้านการตลาด เพื่อให้สินค้าที่ดี และแตกต่าง สามารถ “ขายได้จริง”
                นอกจากความพยายามในการผลักดันสินค้าเข้าสู่ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) การส่งไปยังโรงแรม ร้านกาแฟรายใหญ่ พวกเขายังมองถึงการทำ “ร้านกาแฟสดมีวนา” เป็นช่องทางในการขยายธุรกิจ ผ่านโมเดล “Social Franchise”
               “ตอนนี้กลุ่มคนรุ่นใหม่อยากเปิดธุรกิจของตัวเองกันเยอะมาก และธุรกิจนั้นก็ต้องสร้างประโยชน์ให้กับสังคมด้วย เราจึงศึกษาโมเดลแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เพื่อดึงผู้สนใจมาร่วมกับเรา ที่คิดไว้คือจะไม่มีค่าแฟรนไชส์อะไร ขอแค่สั่งสินค้าจากเราเท่านั้น โดยจะเริ่มจากการทำร้านกาแฟต้นแบบ พัฒนาระบบ การบริหารจัดการที่ดี เพื่อนำเสนอให้กับผู้สนใจต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสร็จได้ภายใน 5 เดือนจากนี้” เขาบอกแผนธุรกิจกาแฟรักษ์ป่า พร้อมประกาศหา “คนใจดี” มาร่วมระดมทุนเพื่อซื้อผลผลิตให้ได้เพิ่มขึ้นในปีนี้
               เริ่มต้นจากกาแฟ แต่ กรีนเนท เอสอี ก็ไม่ได้มีแค่กาแฟ คนเล่าเรื่องบอกเราว่า
               “กรีนเนท เอสอี เน้นผลผลิตจากการอนุรักษ์และรักษาป่า”
               นั่นทำให้ยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากที่จะเดินออกจากป่า สู่มือผู้คนในสังคม อย่างเช่น สมุนไพรจากป่า ที่จะพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจำหน่ายให้ผู้สนใจต่อไป
เป็นพลพรรคสินค้าจากป่า ที่จะมาตอบโจทย์ “เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม” ให้กับพวกเราอย่างแท้จริง
               ชีวิตหลังเกษียณ โชคชะตานำพา “ธีรสิทธิ์” เข้าสู่ถนนผู้ประกอบการเพื่อสังคมแบบเต็มตัว เขาบอกว่า ตลอดการทำงาน มีความประทับใจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการได้ลงไปทำงานใกล้ชิดกับชุมชน แล้วได้รับความห่วงใย ดูแล จากชาวบ้านในชุมชน ที่เขาบอกว่า “มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ” ก็ยิ่งสร้างความปลาบปลื้มให้
               เช่นเดียวกับเมื่อเผชิญกับปัญหาใหญ่ ถูกพ่อค้าคนกลางจากทั้งในและต่างประเทศ พยายามมากว้านซื้อผลผลิตจากชาวบ้าน ทั้งที่พวกเขาส่งเสริมและพัฒนากันมาเป็นปีๆ แต่ชาวบ้านกลับปฏิเสธเงินก้อนโตและยังยืนยันที่จะส่งผลผลิตให้กับพวกเขา สำหรับ “ธีรสิทธิ์” นั่นคือสิ่งสะท้อนความสำเร็จของการทำงานตลอดที่ผ่านมาแล้ว
               ในวันนี้จึงมี “กาแฟอินทรีย์รักษาป่า” ที่ทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข ทั้งมีผลผลิตดีๆ ให้ผู้คนในสังคม ได้ดื่มด่ำความสุข ไปจากกาแฟแก้วนั้น

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การกำหนดเป้าหมาย (3)


สวััสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุก ๆ ท่าน


ฉ. ทำให้จบขั้นตอน


      1.  เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้วท่านต้องดำเนินการให้ครบขั้นตอนในการวางแผนการดำเนินงานให้พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ :-
          ระยะเวลาของกิจกรรม  ลำดับก่อนหลังของกิจกรรม  ใครทำอะไร?  อย่างไร?  เมื่อใด?  และที่ใหน?  แผนงานนั้นสามารถทำได้ตามลำดับหรือไม่?  และมีความเป็นไปได้สูงหรือไม่?

     2.  เมื่อกำหนดแผนการดำเนินงานแล้ว  ก็ดำเนินงานตามแผนด้วย  ระยะเวลาตามที่กำหนดในเป้าหมาย  และต้องมีการวัดผล  การวัดผลเป็นระยะ ๆ ทำให้ท่านมีกำลังใจกับความคืบหน้าของการดำเนินงาน

     3.  อย่ารอให้ถึงกำหนดเวลา  วัดเป็นระยะ ๆ จะทำให้ท่านมีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น  เมื่อท่านสามารถทำได้ตามแผน  เมื่อไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนเราต้องปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน  เมื่อเราได้กำหนดจุดมุ่งหมาย  เราจะพบว่าเรากำลังดำเนินงานในทิศทางของความสำเร็จ  ในส่วนต่าง ๆ ของชีวิตเราจะพบว่าเรากลายเป็นบุคคลที่มุ่งเน้น  "ผลการทำงาน"

     4.  ท่านต้องดำเนินทุกขั้นตอนด้วยความมุ่งมั่น  กำหนดเป้าหมายและวางแผนการดำเนินงานด้วยวามเอาใจใส่  และด้วยความสร้างสรรค์  ท่านต้องคำนึงถึงการเสียสละ  การลงทุนลงแรงในการจะบรรลุเป้าหมาย  ด้วยความระลึกเสมอว่า  ยิ่งเป้าหมายมีความสำคัญมากเท่าไร  ความเพียรพยายามก็มีความสำคัญมากเท่านั้น





ช.  ใช้บัตรกำหนดเป้าหมาย


     1.  เตรียมบัตรกำหนดเป้าหมายเพื่อพกพาติดตัว  เพื่อท่านสามารถดูได้หลาย ๆ ครั้งในหนึ่งวัน  การกระทำดังกล่าวท่านจะระลึกถึงเป้าหมายของท่านอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อปลูกฝังความต้องการของท่านในส่วนลึกของความคิด  เมื่ท่านสามารถระลึกถึงความต้องการตลอดเวลา  ท่านจะสามารถดึงดูดพลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายในมาช่วยท่านในการดำเนินงานสู่การบรรลุเป้าหมาย

     2.  Bob  Proctor  กล่าวว่า  "ทุกคนเกิดมารวย...  ตัวเรามีส่วนในการสร้างบุคคลที่เราเป็นอยู่เราสามารถเลือกการโปรแกรมตัวเองได้  ภาพพจน์ที่เราเลือกที่จะบรรจุในสมองและจิตวิญญาณของเรา  จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะเป็นอย่างไร  มันจะเป็นตัวกำหนดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ท่านสนใจ  และอะไรเป็นสิ่งที่ท่านต่อต้าน  ระลึกเสมอว่าภาพพจน์ที่เรากำลังฝังสู่สมองทุกชั่วขณะ  ที่สามารถเปลี่ยนแปลงความฝันในปัจจุบันให้เป็นความจริงในอนาคต  บางครั้งบางคราวเราจะรู้สึกว่า  ทุกอย่างดูไม่ค่อยราบรื่น  และเราจะกังวลว่าเรากำลังมุ่งไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง  แต่ผมรับรองว่า  หากท่านกำหนดสิ่งที่่ท่านปรารถนาให้ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึก  เราจะไม่รู้สึกว่าหลงทาง  หากท่านกระทำดังนี้  ท่านจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวทีสามารถทำได้ก็คือ  ทิศทางที่ท่านต้องการจะไป"



ซ.  แจ้งเป้าหมายของท่านกับผู้แนะนำท่านเข้าสู่ธุรกิจ


          เพื่อเขาจะได้ทราบความต้องการ และสนับสนุนท่านได้ตรงวัตถุประสงค์  หากท่านเป็นผู้แนะนำบุคคลอื่นเข้าร่วมธุรกิจ  ขอให้ลูกทีมของท่านกำหนดนโยบาย และแจ้งให้ท่านทราบเพื่อท่านจะได้ดำเนินการช่วยเหลือ และสนับสนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  แลกเปลี่ยนเป้าหมายของท่านกับผู้มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน  เก็บบัตรเป้าหมายของท่าน  ติดตัวเื่พื่อจะคิดถึงเป้าหมายในการดำเนินงานของท่านทุกวัน

          ขอให้ทุก ๆ ท่านโชคดี และมีความสุขครับ




สวัสดี     




วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การกำหนดเป้าหมาย (2)


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุก ๆ ท่าน



ง. ลักษณะการกำหนดเป้าหมายที่สมบูรณ์

  1. เฉพาะเจาะจง... เป้าหมายต้องเป็นการระบุเฉพาะเจาะจง  และมีกำหนดระยะเวลา
  2. สามารถวัดได้... ต้องสามารถวัดผลได้  เพื่อความเข้าใจระดับของการดำเนินงานที่จำเป็น  และการวัดผลของการดำเนินงานอย่างชัดเจน
  3. สามารถกระทำได้... ต้องสามารทำให้สำเร็จได้  ต้องท้าทายความสามารถ  แต่ไม่มากจนเกินความสามารถ
  4. ต้องสอดคล้อง... การกำหนดเป้าหมายต้องมีผลประโยชน์สอดคล้องกับบุคคลต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในชีวิตของท่าน  ต้องไม่ขัดซึ่งกันและกัน
  5. เป็นของตัวเอง... ท่านต้องกำหนดเป้าหมายด้วยตัวเอง  การรับคำแนะนำ  และชี้แนะสามารถกระทำได้แต่  หากการกำหนดเป้าหมายไม่ใช่เป้าหมายของตัวเองจะไม่มีคุณค่าอะไรเลย
  6. ลายลักษณ์อักษร... ต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร  มิเช่นนั้นจะไม่ใช่เป้าหมายที่สมบูรณ์






จ. จำนวนเป้าหมาย

         เป้าหมายมากเกินไปไม่ีมีประโยชน์พอ ๆ กับการไม่มีเป้าหมายกำหนดความสำคัญอันดับก่อนหลังให้กับส่วนต่าง ๆ ในชีวิตของท่านขณะที่กำหนดเป้าหมาย  วัตถุประสงค์ของการกำหนดเป้าหมาย คือ การกำหนดแนวทางการทำงานโดยมุ่งเน้นความพยายามของท่านเพื่อผลลัพธ์  กำหนดเป้าหมายในส่วนหลัก ๆ ที่สำคัญในเรื่องของโอกาส  และความรับผิดชอบ  เลือกเป้าหมายที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าที่สุด  ด้วยความเป็นไปได้มากที่สุด



สวัสดี




วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การกำหนดเป้าหมาย (1)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


แนวทางการกำหนดเป้าหมาย




ก. ประโยชน์ในการกำหนดเป้าหมาย


  1. เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง
  2. เพิ่มพูนผลผลิตและประสิทธิภาพ
  3. สร้างแรงกระตุ้นอันก่อให้เกิดการกระทำ
  4. เพิ่มการวัดผลการทำงาน
  5. ทราบจุดอ่อนเพื่อรับการอบรมพัฒนาให้ตรงจุด
  6. กำหนดแนวทางอย่างมีเหตุผล

ข. ชนิดของเป้าหมาย


          จะมีหลายส่วนในชีวิตของคนเราที่ควรมีการกำหนดเป้าหมาย อาจจะเป็นเป้าหมายเกี่ยวกับครอบครัว, จิตใจ, อาชีพ, ฐานะการเงิน, การศึกษา, สุขภาพและสังคม,  แบบฟอร์มของผู้เขียน  มุ่งแนะนำการกำหนดเป้าหมายเพื่อสร้างธุรกิจเครือข่าย  เพื่อสร้างฐานะการเงินที่มั่นคง  หวังว่าท่านจะนำวิธีการดังกล่าวไปใช้ในการกำหนดเป้าหมายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันของท่านด้วยเช่นกัน


ค. ขั้นตอนการกำหนดเ้ป้าหมาย

ขั้นตอนการกำหนดเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพรวมถึง

  1. การประเมิน และการวิเคราะห์สถานการณ์
  2. การกำหนดเป้าหมาย และการวางแผน
  3. การดำเนินตามแผนงาน
         เป็นวิธีการที่ต่อเนื่องเริ่มจากขั้นที่  1-2  และ  3  หัวข้อสำคัญต่อผลลัพธ์  และความสำเร็จคือ ความุ่งมั่น และการกระทำการกำหนดเป้าหมาย  ด้วยตัวของคุณเองเป็นตัวชี้ทาง และสร้างแรงบันดาลใจ  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ

ท่านควรกำหนดเป้าหมายภายในขอบเขตของระยะเวลา
  1. เป้าหมายระยะสั้น  ซึ่งหมายถึง  รายวัน  รายอาทิตย์  รายเดือน
  2. เป้าหมายระยะกลาง  ซึ่งหมายถึง  รายไตรมาส (3 เดีอน)  และ  รายปี
  3. เป้าหมายระยะยาว  ซึ่งหมายถึง  รายปี,  2  ปี,  5  ปี  และไกลกว่านั้น
          ขณะที่ท่านกำลังกำหนดเป้าหมายและแผนงาน  ขอให้ทำการทบทวนและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน  การแก้ไข และการปรับปรุงเป้าหมาย และแผนงานสามารถกระทำได้  บางครั้งเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการดำเนินงานด้วยวิธีอื่น  การปรับปรุงแผนการดำเนินงานเป้าหมายบางเป้าหมายจะสามารถทำให้สำเร็จได้ง่าย  บางเป้าหมายอาจสำเร็จได้ยาก


การกำหนดเป้าหมายที่จะสามารถนำไปใช้ให้ได้ผลมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ :-
  1. การกำหนดเป้าหมายต้องกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร
  2. จะมีการระบุเหตุผลว่า  "ทำไม?  เพราะอะไร? "
  3. จะต้องมีการกระทำหรือ ดำเนินการทันที




สวัสดี




วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำคม (8)


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



  • ในการพิสูจน์ความเชื่อ  เรา้ต้องเสี่ยงกับความล้มเหลว
  • ในการสร้างความเชื่อมั่น  เราต้องกล้าทำในสิ่งที่เป็นไปได้
  • ในการประสบความสำเร็จ  เราต้องกล้าเสี่ยง
  • ในการที่เราจะมองข้ามขอบฟ้า  เราต้องกางปีก
  • ในการเป็นคนดีที่สุด  เราต้องเอื้อมให้ไกลกว่าจะเอี้อมถึง
  • ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งเลวร้าย  แต่เป็นครู  มันหล่อหลอมขัดเกลา  เพื่อสักวันเราจะส่องแสง
  • การประสบความล้มเหลว  ไม่ใช่ตัวกำหนดจุดหมายปลายทาง  หากแต่เป็นก้าวถัดไป  และก้าวถัดไปที่เราดำเนินหลังประสบความล้มเหลวต่างหาก  จะเป็นสิ่งที่เราได้  เล่าเกี่ยวกับชีวิตการต่อสู้ของเรา
  • นิสัยที่บั่นทอนที่สุด  ความกังวล
  • ความสุขที่สุด  การให้
  • การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  เสียความเคารพตนเอง
  • งานที่อิ่มใจที่สุด  การช่วยเหลือผู้อื่น
  • นิสัยที่น่าเกลียดที่สุด  ความเห็นแก่ตัว
  • ธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุด  ความหนุ่มสาว
  • การฟันฝ่าอุปสรรคที่สำคัญที่สุด  ความกลัว
  • ยานอนหลับที่มีพลังที่สุด  ความสงบทางใจ
  • โรคแห่งความล้มเหลวที่อันตรายที่สุด  การแก้ตัว
  • พลังที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต  ความรัก
  • คอมพิวเตอร์ที่มีพลังที่สุด  สมอง
  • สิ่งที่ขาดไม่ได้  ความหวัง
  • อาวุธที่ร้ายแรงที่สุด  ลิ้น
  • คำที่มีพลังสูงสุด  ฉันทำได้
  • สมบัติที่มีค่ามากที่สุด  ความเชื่อมั่น
  • อารมณ์ที่ไม่มีประโยชน์  การสมเพชตนเอง
  • อาภรณ์ที่สวยที่สุด  รอยยิ้ม


" ในโลกใบนี้คุณอาจเป็นเพียงบุคคล  บุคคลหนึ่ง
แต่สำหรับบุคคลหนึ่ง  คุณอาจเป็น  โลกทั้งโลกของเขา "


ขออย่าเป็นกังวล
ในทุกข์ทนที่ตนผ่าน
เป็นเพียงประสบการณ์
คือ วันวานที่ผ่านไป
วันนี้ยังมีอยู่
ในเช้าตรู่ได้สู้ใหม่
รอยยิ้มพริ้มละไม
กำลังใจมีให้กัน

ขอให้ทุกท่านโชคดี



สวัสดี




วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำคม (7)


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


        หลายปีในธุรกิจเครือข่าย


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เราไม่สามารถทำให้คนรักเราได้  แต่เราสามารถทำตัวให้เป็นที่รัก


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เราใช้เวลาเป็นปีที่จะให้คนไว้ใจ  และใช้เวลาวินาทีเดียวที่จะทำลายมัน


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเรามีอะไรในชีวิตของเรา  แต่เรามีใครในชีวิต


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เราสามารถกระทำการในชั่วพริบตาที่จะทำให้เราเสียใจไปตลอดชีวิต


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เราควรพูดจากับคนที่เรารักด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน  เพราำะมันอาจเป็นคำพูดครั้งสุดท้าย


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เรายังไปได้อีกไกล  หลังจากเรารู้สึกว่าเราไปไม่ได้แล้ว


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • ผู้ที่ประสบความสำเร็จคือ  ผู้ที่ทำในสิ่งที่ต้องทำ  ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • ประกาศนียบัตรบนผนังมิได้ทำให้เจ้าของเป็นคนสมบูรณ์


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • เราสามารถมองสิ่งเดียวกัน  แต่มองเห็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • ไม่ว่าเพื่อนจะดีขนาดใหน   เขาจะทำให้เราเสียใจในบางโอกาส  และเรามีหน้าที่ที่จะให้อภัย


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • บางทีการที่ผู้อื่นยกโทษให้เรานั้นยังไม่พอ  เราต้องเรียนรู้ที่จะยกโทษให้ตัวเอง


ฉันเรียนรู้ว่า...

  • ความล้มเหลวเป็นเพียงคำ ๆ หนึ่งเท่านั้น  มันมากับความเจ็บปวด  ความท้อถอยและความดูหมิ่นดูแคลน  มันมากับความเครียด  ความไม่เข้าใจ  ซึ่งเราพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกล





สวัสดี




        

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำคม (6)


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



  • ความคิดของคนกำหนดว่าเขาต้องการอะไร  แต่การกระทำของเขาเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะได้อะไร

                                 David A. Nelson

  • การประสบความสำเร็จนั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำ  ผู้ประสบความสำเร็จ คือ  ผู้ที่เดินหน้าต่อๆไปเรื่อย ๆ เขาอาจพลั้งพลาดแต่เขาไม่เลิก

                                  Conrad  Hilton

  • การกระทำเท่านั้น  ที่นำไปสู่ความสำเร็จ  การกระทำทำให้เกิดผลความรู้  เป็นเพียงอำนาจที่สงบนิ่ง  จนกว่าจะอยู่ในมือของผู้ที่รู้จักวิธีที่จะนำมันมาใช้  ให้เกิดเป็นผลจากการกระทำ

                                   Aristotle

  • เราคือสิ่งที่เราทำอย่างสม่ำเสมอ  ความสมบูรณ์ไม่ใช่การกระทำ  แต่เป็นนิสัย

                                   Anthony Robbins

  • ความรู้น้อยที่ถูกนำไปใช้มีค่ามากกว่าความรู้มากที่สงบนิ่ง

                                   ไม่ทราบที่มา

  • ผู้ประสบความสำเร็จมองเห็นโอกาสในเสี้ยววินาที  ตัดสินใจได้รวดเร็ว  และลงมือด้วยการกระทำทันที  ลองปฏิบัติดูและท่านจะสามารถทำฝันให้เป็นจริง

                                    Dr.Robert Schuller

  •   แผนงานที่ดี  กระทำเดี๋ยวนี้ดีกว่าแผนงานที่วิเศษสุด  กระทำอาทิตย์หน้าอย่างมากมาย

                                    General  George Patton

  • สิ่งที่ยิ่งใหญ่มิได้เกิดจาการกระทำโดยไม่ได้นึกคิด  แต่เกิดจากการกระทำ เล็ก ๆ น้อย ๆ นำมารวมกัน

                                    Vincent Van Gogh

  • ความอิ่มเอิบใจในชีวิตคือ การทำในสิ่งที่ผู้อื่นบอกว่าท่านทำไม่สำเร็จ

                                    Walter Bag Chat

  • การลุึกขึ้นจุดเทียนนั้น  ดีกว่าการนั่งบ่นอยู่ในความมืด

                                     (สุภาษิตจีน)     



สวัสดี




วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำคม (5)


สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



      การกระทำ


  • เราต้องไม่รับผิดชอบเพียงแต่ในสิ่งที่เราทำ  แต่ต้องรวมถึงสิ่งที่เราไม่ได้ทำด้วย

                           Moliere

  • ศิลปะของชีวิตคือ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

                            Okakura  Kakuzo

  • การประสบความสำเร็จเป็นขั้นตอนการเดินทางไม่ใช่จุดหมาย  การกระทำมีความสำคัญกว่าผลลัพธ์

                            Arthur  Ashe

  • ทีละนิด  ทีละนิด  เราสามารถไปได้ไกล

                             J.R.R.  Tolkien

  • เราต้องเดินทางไปให้ไกลกว่าทฤษฎี  ออกนอกทางประจำและเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราให้แก่ชาวโลก

                             John  Hope  Franklin

  • ความผิดพลาดเป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จ

                             คำคมประเทศญี่ปุ่น

  • ทุก ๆ อย่างสร้างขึ้นมา  2  ครั้ง  ครั้งแรกในความคิด  ครั้งที่สองในการปฏิบัติ

                             Greg  Anderson

  • การประสบความสำเร็จคือ การลุกขึ้นสู้อีกครั้ง  ซึ่งมีจำนวนมากกว่า  จำนวนครั้งที่ท่านล้มเพียงครั้งเดียว

                              Doc  Blakely

  • สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่กับสิ่งที่ท่านรู้  แต่ขึ้นอยุ่กับการกระทำที่ได้ทำลงไปกับสิ่งที่ท่านรู้

                              Dr. Julie White

  • ความสำเร็จคือ  การประสบความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า    โดยไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

                              Sir  Winston  Churchill

  • โลกนี้เต็มไปด้วยคนช่างฝัน  มีคนน้อยเกินไปที่กำลังเดินหน้า และลงมือทำฝันของเขาให้เป็นรูปธรรม

                              W. Clement  Stone



สวัสดี