วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ดื่มโกโก้สุขภาพดี


สวัสดีครับ นักรักสุขภาพ ทุกท่าน


ดื่มโกโก้วันละแก้วสุขภาพดี


          ผลการศึกษาชิ้นใหม่พบว่านอกจาก ชา หรือไวน์แดง ที่รู้กันดีว่ามีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคได้หลายโรค รวมถึงยังป้องกันผลกระทบจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยังมีอาหารอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ "โกโก้" ที่มีคุณสมบัติมากกว่าเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่ว่ามาเสียอีก 
          นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาศึกษาพบว่า โกโก้ร้อน 1 ถ้วยนั้นอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเช่น ชา หรือ ไวน์แดง 
          ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เน้นถึงคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพทีพบใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ โดยมีงานวิจัยในจีน ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วพบว่า คนที่ดื่มน้ำชาเป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกว่าครึ่งหนึ่ง 


          ปีที่แล้ว นักวิจัยในฝรั่งเศสรายงานว่า ดื่มไวน์แดงวันละแก้ว อาจช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจ และในปี 1998 ได้มีการศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คนพบว่าช็อกโกแลต ซึ่งผลิตมาจากโกโก้ นั้นอาจช่วยให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วย โพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์ และก่อให้เกิดมะเร็งได้ 
          ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับสารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมากกว่า ไวน์แดง 1 แก้วถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วยถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว 
          แม้ว่าโกโก้จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหลายอย่างรวมทั้ง ช็อกโกแลต แต่นักวิจัยเผยว่าทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็คือการดื่มโกโก้ โดยตรง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในช็อกโกแลต 1 แท่งอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่ง ขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น 


          "แม้เรารู้ว่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระนั้นดีต่อสุขภาพของเรามาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในแต่ละวัน เราต้องการสารนี้กันจำนวนเท่าใด" ดร. ลี กล่าว "แต่กระนั้น โกโก้ร้อน ถ้วยหรือ สองถ้วย ก็ช่วยในด้านของความอร่อย ดื่มแล้วก็ทำให้รู้สึกอุ่น และช่วยเสริมสร้างสุขภาพจากสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ได้รับอีกด้วย" 


ที่มา : ผลการศึกษาตีพิมพ์ใน วารสารของสมาคมการแพทย์อเมริกัน

http://www.saranair.com/article.php?sid=16960


ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง นะครับ


สวัสดีครับ




วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

โทษไขมันเกาะในร่างกาย+สูตรลดหน้าท้องล้างใส้


สวัสดีครับ  ทุกท่านผู้รักสุขภาพ



โทษไขมันเกาะในร่างกาย+สูตรลดหน้าท้องล้างใส้


          สาวๆที่สะสมไขมันไว้ในร่างกาย สะสมไว้ไม่ดีนะครับเลย  ผมมาแชร์ข้อมูลโทษของไขมันที่เกาะใน  ร่างกายส่งผลอะไรกันมั่ โทษที่เกิดจากการที่ไขมันที่เกาะในผนังลำไส้ กระเพาะอาหาร หากสะสมมาจะทำให้เกิดข้อ บกพร่องและ เป็นผลทำให้เกิดโรค   ต่าง ๆ ได้ เช่น




1. ถุงน้ำดี ทำให้นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว นิ่วในไต สายตาเสื่อม ปวดเมื่อย ตาม ร่างกาย  
2. เลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้มึนศีรษะ 
3. ไตเสื่อม ทำให้ความจำลดลงและเป็นคนขี้หนา 
4. ม้ามชื้น ทำให้อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมันเป็นผลทำให้อ้วนง่าย 
5. ม้ามโต ทำให้เหนื่อยง่ายเพราะม้ามไปเบียดปอด 
6. ถ้าไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆ จะทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ เป็นผล ทำให้เป็นหวัด  ในตอนเช้าหรือหวัดเรื้อรัง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้ ทำให้จามใน ตอนเช้า 
7. ถ้าไขมันในตับสูง การสร้างเม็ดเลือดจะลำบาก ฉะนั้นการดื่มตามสูตรนี้ นอกจากช่วย ลดหน้าท้อง ยังส่งผลให้อาการป่วยทั้ง 7 ประการนี้หายไป ด้วย



 มาแชร์ สูตรล้างลำใส้่กะทุ้งไขมันเกาะไว้กะเทาะกะแทะออกไปและยังช่วย ลดไขมันหน้าท้องได้อีก ฉะนั้น เรามาป้องกันการเกิด ไขมันเกาะในผนังลำไส้และก่อโรคอ้วน  หน้าท้องเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่จะบ่งบอกถึงว่า ตอนนี้สภาพร่างกายคุณเป็นอย่างไร นั้นก็หมายถึง อาหารที่คุณกินเข้าไปมัน เข้ามันสะสมจนทำให้คุณมีไขมันหน้าท้องมาก และจะทำให้คุณกลายเป็นคนอ้วนไปในที่สุด และหน้า ท้องเมื่อมีไขมันสะสมแล้วก็  ลดยากเสียด้วยพอ ๆ กับไขมันที่สะโพกนั่นแหละ


           เราจึงมีวิธีทำสูตรนี้มาแนะให้ทำกันครับ


สูตรลดหน้าท้องนี้จะช่วยปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่รักสุขภาพ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปวดข้อ เป็น   ตะคริวอยู่บ่อยๆ หรือโรคอ้วน สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ดื่มเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยบรรเทาโรค   ต่างๆ ได้


นมสดรสจืด 1 กล่อง 
โยเกิร์ตรสจืด ครึ่งถ้วย 
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
มะนาว 1 ลูก 


น้ำผึ้ง จะพบว่าในน้ำผึ้งมีสารเอนติออกซิเดนท์ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียวและยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ แร่ธาตุที่กล่าวมาล้วนมีความจำเป็นต่อร่างกายที่ จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงโลหิตนำส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้ากันชิมรสตามใจชอบ และต้องดื่มตอนเช้า มื้อเดียวก่อนอาหาร มื้ออื่นไม่เห็นผล มะนาวก็ควรบีบ แล้วกินทันที เพื่อรักษาคุณสมบัติวิตามินซีไว้ และควรดื่มน้ำตาม 1-2แก้ว จะเห็นผลดียิ่งขึ้น สรรพคุณไม่ใช่ยาลดน้ำหนักโดยตรง แต่จะปรับธาตุ ล้างพิษในลำไส้ ล้างไขมัน กินวันแรกๆ จะ เห็นเลย ว่าอุจจาระจะเป็นสีดำ และไล่ลมในกระเพาะดีมาก ระยะต่อมา เมื่อลำไส้และกระเพาะอาหารในร่างกายปรับตัวได้กับอาหารที่ กินแล้วจะเข้าสู่ ภาวะปกติ แต่ต่อมาจะมีความรู้สึกว่าหน้าท้องยุบลงเนื่องจากจุลินทรีย์ในโยเกิร์ต ทำให้ลำใส้ทำงานได้ดีไม่ทำให้  ลำใส้บวมหน้าท้องป่องควร   กินทุกเช้าติดต่อกันทุกวัน




ที่มาธรรมชาติบำบัด อ.สุทธิวัสน์



          ขอให้ทุกท่านโชคดี  และมีสุขภาพดี แข็งแรงทุกท่านนะครับ






สวัสดีครับ





วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความกลัวในการเริ่มธุรกิจของตัวเอง (2)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่าย ทุกท่าน


แล้วก็มาถึงส่วนที่สนุกที่สุด

                 ลองนึกภาพดูว่า หากท่านลงทุนในธุรกิจเฟรนไชส์ ด้วยเงินลงทุนสัก 2 ล้าน บาท สมมุติว่า ธุรกิจของท่านล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ ท่านโทรศัพท์กลับไปยังบริษัทเจ้าของเฟรนไชส์ ขอรับเงินค่าเฟรนไชส์ และสินค้าที่ขายไม่ออก และขอคืน อุปกรณ์ตกแต่งร้านจะได้หรือไม่ ลองนึกภาพไปถึงพนักงานอีก 2 - 3 คน ที่ท่านต้องบอกเลิกจ้างนึกไปถึงเพื่อนสนิท ญาติพี่น้องที่ท่านได้ขอยืมเงินมาลงทุน หรือชักชวนให้เป็นหุ้นส่วน และคำำพูดที่จะบอกเขาหล่านั้นว่า ธุรกิจของท่านไม่เป็นไปตามเป้าที่ท่านคาดหวัง และท่านยังมองไม่เห็นทางว่าจะได้เงินลงทุนที่สูญไปนั้นคืนได้อย่างไร    นั่นคือ ภาพจริงที่เกิดขึ้นเมื่อท่านลงทุนดำเนินธุรกิจที่ผิดพลาด... ไม่ประสบความสำเร็จ
                 ในธุรกิจเครือข่าย นั้นไม่เพียงแต่เหตุการณ์ทำนองนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เท่านั้น แต่ในหลายๆประเทศกฎหมายยังได้กำหนดว่าเกิดขึ้นไม่ได้!  ในธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้อง  สมาชิกจะต้องสามารถคืนสินค้าที่นำไปจำหน่ายต่อได้ทั้งหมดโดยได้รับเงินคืนทุกบาททุสตางค์
                  ฉะนั้นหากท่านดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และถูกต้อง อัตราเสี่ยงในการลงทุนของท่านนั้นแทบจะไม่มี ขณะที่ผลตอบแทนหรือกำไร ของธุรกิจนี้ไม่ด้อยกว่า หรือ ส่วนใหญ่มากกว่าธุรกิจอื่นๆ หลายเท่าตัว
                  สำหรับท่านสมาชิกที่ขณะนี้กำลังดำเนินธุรกิจเครือข่ายโปรดระลึกไว้เสมอว่า  บุคคลส่วนใหญ่ในโลกนี้ (ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกธุรกิจเครือข่าย) อย่างน้อยในส่วนลึกเขามีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองมากกว่าการรับจ้างทำงานให้กับผู้อื่น
                  เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาอธิบายข้อดีของสิ่งที่เป็นความฝันของเขาอยู่แล้วแต่เขาเหล่านั้นส่วนใหญ่จะมีความกังวล และความกลัวในการที่จะก่อสร้างธุรกิจของตัวเอง
                  เราต้องเริ่มโดยการเปิดใจเขาเหล่านั้นว่า มันยังมีวิธีเป็นไปได้ในการที่เขาจะทำฝันของเขาให้เป็นจริง แล้วจึงชี้แจงรายละเอียด  และในหลายๆ กรณีต้องปกป้องระบบเครือข่าย หรือแนวความคิดระบบเครือข่าย  เมื่อเขาได้เปิดใจแล้ว เราจึงจะมีโอกาสชี้แจงข้อดีของบริษัทในระบบเครือข่ายต่อไป
                 หากท่านกำลังพิจารณา อยากจะเริ่มธุรกิจของต้วเอง ขอให้ท่านเปิดใจพิจารณาธุรกิจเครือข่าย ฟังดูเหมือนสิ่งที่เหลือเชื่อ ฟังดูดีเกินไปที่จะเป็นจริง ธุรกิจนี้คือธุรกิจของคนช่วยเหลือคน  เป็นธุรกิจของกาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน และธุรกิจของความหวังดี  เป็นคมในฝักของนักปราชญ์ทุกยุคทุกสมัย  หากท่านดำเนินธุรกิจด้วยความเข้าใจอย่างถูกต้อง ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่มีางขาดทุน ทุกคนมีแต่ได้ด้วยกันทั้งนั้น




                 หากท่านยังไม่ได้เข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย จึงมีสาเหตุเพียง 2 ประการ คือ
                1. ท่านไม่เคยมีความรู้ความเข้าใจ ในธุรกิจนี้ และ
                2. ท่านมีทัศนคติในแง่ลบกับธุรกิจเครือข่าย  ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีอคติต่อธุรกิจเครือข่าย
                หากท่านมีอคติ หรือทัศนคติในแง่ลบเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย  เพราะคำบอกเล่าจากผู้อื่น  (ส่วนใหญ่จะมาจากสมาชิกที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือจากบุคคลที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้)  ท่านกำลังยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นโดยปราศจากการพิจารณา เหตุและผล ด้วยตัวของท่านเอง
                ลองศึกษาธูรกิจนี้ดู  พิจารณาแนวความคิดของธุรกิจ และหากท่านทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้  ผมรับรองว่าทุกคนจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบการตลาดว่า  ทำไมการกระจายสินค้าในระบบเครือข่ายกำลังเป็นที่นิยมของชาวโลก  เป็นระบบการจัดจำหน่ายที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว  และจะทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต


             " ธุรกิจนี้เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังเปลี่ยนแนวทางการกระจายสินค้า เป็นจุดหักเหของระบบการตลาดอย่างรุนแรง "




สวัสดี



วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความสวยงามของธุรกิจเครือข่าย (2)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


           สิ่งที่ยากที่สุด ในการพัฒนาสมาชิกสู่การเป็น " ผู้นำ " ที่มีประสิทธิภาพก็คือ  การเปลี่ยนทัศนคติ  หากเราต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ  ทัศนคติหรือแนวความคิดเราต้องเปลี่ยนไปในทิศทางที่ถูกต้อง  ความคิดเราจะถูกต้องและแม่นยำ ได้ต้องอาศัยความรู้  ความรู้ที่ทุกบริษัทพยายามจะมอบให้จนบางครั้งถึงขั้นยัดเยียด  ความรู้ที่ได้จากการสัมนา การอบรม ซึ่งเป็นความรู้จากประสบการณ์ชีวิตจริงที่บริษัทฯ  และสมาชิกนำมาแลกเปลี่ยนแบ่งปันซึ่งกันและกัน
            สมาชิกหลายๆ คนปราถนาความสำเร็จ ต้องการพัฒนาตนเองสู่การเป็น เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุด แต่ไม่ยอมก้าวบันไดขั้นแรก คือการขวนขวายหาความรู้ ผมไม่เสียดาายเงินหลายสิบล้านที่บริษัทฯ ใช้ในการอบรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  เพรา่ะมันได้พืสูจน์แล้วว่าสามารถนำพาสมาชิกสู่ความสำเร็จ แต่ผมเสียดายโอกาสของสมาชิกที่มีแต่ความ " อยาก " จะประสบความสำเร็จ มีความมุ่งมั่นในปริมาณมาก พร้อมจะทำงานหนักเพื่อแลกกับความสำเร็จแต่มองไม่เห็นความสำคัญของการอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง  โรเบิร์ต แนะนำว่า

          "...ใช้เวลากับมันสัก 5 ปี หรือทุ่มเทจริงๆ จังๆ  สัก 6 เดือน  เมื่อตัดสินใจแล้ว คุณต้องเข้ารับการอบรมทุกรายการที่เขาบอก  เข้าประชุม เข้าอบรม ไม่ว่างานใหญ่หรืองานเล็ก  เหตุผลที่ผมแนะนำเช่นนี้  เพราะทันทีที่สิ่งแวดล้อมคุณเปลี่ยน  มุมมองของคุณจะเปลี่ยนเช่นกัน  ฉะนั้นคุณจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมทั้งหมดของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้... "
           ... มีสมาชิกหลายคนถามผมว่า  เมื่ออะไรๆ ก็ดีไปหมดแล้ว ข้อเสียของธุรกิจเครือข่าย คืออะไร?... ผมมองไม่เห็นข้อเสียหากดำเนินการอย่างถูกระบบ ... แค่ผมเห็นความลำบาก
           " ...ความลำบากของธุรกิจนี้ คือ การทำงานกับคนหลากหลายร้อยพ่อพันแม่  ความลำบากในการชี้ความจริงให้เขาเห็นว่า  นี่คือธุรกิจ! ... คุณกำลังสร้างธุรกิจของตนเอง ... เท่านั้นเอง! "




สวัสดี




วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผลประกอบการปี 2555 ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไทย


สวัสดีครับ ทุกท่าน


เรื่องผลประกอบการนี้ อาจมีผู้ที่สนใจ ผมจึงนำมาเสนอต่ออีกทีนึง  เผื่อผู้ที่ยังไม่ทราบข้อมูลได้ศึกษาต่อไปครับ  ว่าธุรกิจมือถือนนั้นมีผลตอบแทนรายได้สูงจริงๆ 


ผลประกอบการปี 2555 ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไทย ยังคงเติบโต

สามผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2555 กันครบแล้ว (ข้อมูลปี 2554) ในปีที่ผ่านมานั้นทิศทางอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการใช้งานข้อมูลที่สูงมากขึ้น สมาร์ทโฟนที่มีราคาลดลง และการประมูล 3G โดยผลสรุปการดำเนินงานของทั้งสามค่ายมือถือเป็นดังนี้ครับ



- เอไอเอส

เอไอเอสมีรายได้รวม 141,568 ล้านบาทในปี 2555 เพิ่มขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 34,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 57% ซึ่งมีปัจจัยหลักจากค่าตัดจำหน่ายโครงข่ายและต้นทุนการเงินที่ลดลง รวมถึงอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 23% จากเดิม 30% มีเงินสดรวม 23,531 ล้านบาท

จำนวนผู้ใช้บริการ ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 35.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านเลขหมาย ซึ่งเอไอเอสอธิบายว่ามาจากการที่ผู้ใช้บริการหนึ่งคนมีซิมมากกว่าหนึ่งหมายเลข เพื่อใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เมื่อแยกกลุ่มรายได้ บริการเสียงมีรายได้เพิ่ม 5.4% ส่วนบริการข้อมูลเติบโตถึง 33%

เอไอเอสเผยยุทธศาสตร์การขยายเครือข่าย 3G ว่าจะเร่งขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ 97% ภายใน 3 ปี โดยจะสามารถให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดในปีแรก โดยเตรียมงบลงทุนสำหรับ 3 ปีข้างหน้า 7 หมื่นล้านบาท

- ดีแทค

ดีแทคมีรายได้รวม 89,497 ล้านบาทในปี 2555 เพิ่มขึ้น 13% กำไรสุทธิ 11,276 ล้านบาท ลดลง 4.5% เนื่องจากอัตราส่วนแบ่งรายได้ค่าใช้จ่ายด้านเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรจากการขายโทรศัพท์ลดลง และภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากวงเงินกู้สำหรับการลงทุน 3G

จำนวนผู้ใช้บริการของดีแทคเพิ่มขึ้นมาจากปีก่อน 2.1 ล้านเลขหมาย รวม 25.3 ล้านเลขหมาย ซึ่งมาจากการทำกิจกรรมการตลาดอย่างหนักในไตรมาสที่ 4 ในส่วนของรายได้ตามประเภทนั้น รายได้จากบริการเสียงลดลง 1.7% ส่วนรายได้จากบริการเสริมรวมทั้งอินเทอร์เน็ตนั้นเติบโต 49.2%

ดีแทคระบุว่าบริการ 3G บนความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์จะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

- ทรูโมบาย (ทรูมูฟ ทรูมูฟเอช และฮัทช์ CDMA)

กลุ่มทรูโมบายมีรายได้รวมปี 2555 อยู่ที่ 57,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.6% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของลูกค้าทรูมูฟเอช และการออกแบบแคมเปญในการจำหน่ายอุปกรณ์ร่วมกับแพ็กเกจทรูมูฟเอช โดยเฉพาะการจำหน่าย iPhone 5 ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งทำให้มีรายได้จากส่วนนี้ถึง 5.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามส่วนธุรกิจนี้ยังขาดทุนสุทธิอีก 9,030 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการดำเนินงานที่สูง

อย่างไรก็ตามทรูมูฟเอชนั้นมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 2.4 ล้านเลขหมาย ทำให้มีผู้ใช้งานรวม 2.9 ล้านเลขหมาย โดยที่เหลือเป็นลูกค้าทรูมูฟระบบเดิม 18 ล้านเลขหมาย และฮัทช์ CDMA 46,400 เลขหมาย โดยส่วนของรายได้นั้นมีการเติบโตในกลุ่มบริการอินเทอร์เน็ตถึง 70%

สำหรับปี 2556 ซึ่งทรูโมบายก็ได้ประมูลใบอนุญาตใช้คลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์เช่นกันนั้น บริษัทจะนำมาเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจโมบายอินเทอร์เน็ต โดยรวมเอาจุดแข็งของบริการบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ และบริการบนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งเป็นของ กสท โทรคมนาคม เข้าไว้ด้วยกัน

ที่มา: เอไอเอส, ดีแทค และทรู





สวัสดี




คุณสมบัติ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่าย ทุกท่าน


           นักธุรกิจ คือ ผู้ที่ทำงานหนัก  ผู้ที่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบได้ด้วยความคิด  โดยนำความคิดมาประยุกต์ใช้เพื่อก่อให้เกิดรายได้   ซึ่งแตกต่างกับผู้ที่ยึดติด  อยู่กับที่ ดำรงค์อยู่ในที่ปลอดภัย  ไร้ความเสี่ยง  ข้อนี้ไม่มีอยู่ในหมู่นักธุรกิจ  แต่ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่แบ่งแยก  นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กับ  นักธุรกิจที่ประสบความล้มเหลว ออกจากกัน  


         
           เรามาดูกันว่า  คุณสมบัติที่ว่านี้คือ อะไรบ้าง

              1. เป้าหมาย  ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้  เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว จริงหรือไม่ เพราะว่า เราจะไม่มีสิ่งที่วัดได้เป็นรูปธรรมเลย  ว่าอย่างใหนคือ ประสบความสำเร็จ  หรือ การเดินทางถึงขั้นใหนแล้ว  เราจึงต้องมีการกำหนด ระยะ เป้าหมายไว้ในระยะยาวไว้ (แน่นอนว่าของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน)
                ส่วนเป้าหมายระยะสั้น เรากำหนดไว้เพื่อการทำงานเป็นขั้น ๆ  ระหว่างขั้นที่เราบรรลุเป้าหมายเราจะรู้ได้ว่าอยู่จุดใหน  มากน้อยเพียงไร  ทำให้เราเกิดกำลังใจเป็นแรงผลักดันในการก้าวขั้นต่อไป 

             2.  การคิดบวก  สิ่งสำคัญมาก อันดับต้น ๆ เลยครับ  เนื่องจากการทำงานุทุกๆ อย่างนั้นย่อมมีอุปสรรคขวางกั้นเสมอ เ็ป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เจอ  การมองโลกในแง่ดีและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค จึงเป็นหนทางการแก้ปัญหา  ทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จได้

             3. เสริมจุดแข็ง กำจัดจุดอ่อน  ทุกท่านนั้นผมเชื่อว่า  มีความสามารถบางอย่างที่ซ่อนอยู่  ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งคนอื่นๆ  หากท่านสามารถนำมาใช้ให้ถูกทางตรงจุดจะเป็นประโยชน์กับท่าน  และควรเรียนรู้เพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอด การทำธุรกิจของท่านให้ก้าวไปข้างหน้า  ควรหาข้อมูลให้รู้ลึกรู้จริงเพราะมันจะเป็นผลดีกับท่าน และบุคคลรอบๆ ข้างท่านอย่างแน่นอน

             4.  ความมุ่งมั่น  มุมานะ  การทำธุรกิจนั้น  ต้องมีความขยันหมั่นเพียร  มุ่งจดจ่อกับสิ่งที่ทำ ผลที่ได้ก็คือ จะทำให้ท่านเกิดสมาธิ  มีสติ  สามารถทำงานที่อยู่ตรงหน้าของท่านให้สำเร็จได้  ซึ่งต้องลงมือทำทันทีอย่ามัวแต่วาดภาพฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  การทำทันทีและมุ่งมั่น มุมานะ สำเร็จแน่นอน 

             5. สร้างเครือข่ายที่ดี   มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะทำธุรกิจแบบข้ามาคนเดียว  ไม่ติดต่อกับใคร ยิ่งมีคนที่เรารู้จักและรู้จักเรามากเท่าไร  ก็ยิ่งมีส่วนช่วยในการทำธุรกิจให้สำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีก  เครือข่ายที่สร้างต้องไม่เฉพาะลูกค้าเท่านั้น  แต่ต้องเป็นคนที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันด้วย ยิ่งถ้าเป็นที่มีประสบการณ์สูง  ก็สามารถช่วยท่านดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้นอีกด้วย เน้นเป็นพิเศษ คือ... คนรู้จักเรายิ่งเยอะเท่าไรยิ่งดีครับ

            6.  สนุกในการเรียนรู้  ทุวันนี้การแข่งขันในท้องตลาดนั้นปรับเปลี่ยนตลอดเวลา  หากวันใดเราย่ำอยู่กับที่ไ่ม่แสวงหาสิ่งใหม่ๆ เราแพ้แน่นอนครับ  เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภค การค้นคว้า  การวิจัย  ความคิดใหม่ๆ  ทางธุรกิจ (Business Model) เกิดขึ้นตลอดเวลา               
            หากเราไม่ปรับตัว เพิ่มการเรียนรู้  เตรียมตัวล้มเหลวได้เลยครับ  โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์  ซึ่งเทคโนโลยี่เปลี่ยนเร็วมาก ต้องตามพฤติกรรมผู้บริโภคให้ทันอยู่เสมอๆ 

            7.  กล้าล้มเหลว  (Dare to Fail) ความกลัว  คือ อุปสรรคสำคัญ  หากเรากลัวล้ม  เราก็ไม่กล้าเดิน กลัวล้มเหลว เราก็ไม่กล้าทำ  สิ่งสำคัญคือ...อยู่ที่ใจของเรา เอง  เราต้องลบภาพแห่งความกลัว ภาพแห่งความล้มเหลว มองมันให้เป็นประสบการณ์  ไม่มีใครประสบความสำเร็จตั้งแต่แรกหรอกครับ  ยิ่งล้มเหลวมากเ่ท่าไร  เราก็จะยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้น  และเราก็ใช้เป็นบทเรียน  นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไข  เพื่อไม่ให้ผิดพลาดซ้ำในสิ่งเดิมๆ  นั่นก็จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จในธุรกิจที่มากขึ้นๆ ครับ

           สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านนำข้อคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์  ให้มากที่สุดเพื่อธุรกิจของท่าน

           และขอให้ท่านประสบความสำเร็จ  และมีความสุขครับ



สวัสดี




วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กล้วยน้ำว้า มีประโยชน์นะจ๊ะ


สวัสดีครับ


                    พบเรื่อง ของกล้วยที่อยากบอกเล่า พอดี เลยขอแนะนำมาเสนอเลยละกันครับ

            คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า ผลไม้อย่าง “กล้วย” นั้นมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง นอกจากผลของกล้วยจะเป็นผลไม้รสชาติหวานอร่อยแล้ว ส่วนอื่นๆ ของต้นกล้วยก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง ตั้งแต่ใบกล้วยหรือใบตอง ลำต้น หรือแม้กระทั่งหัวปลี  

 
   

            แต่สำหรับกล้วยที่ “108 เคล็ดกิน” จะมาบอกถึงคุณสมบัติอันน่ามหัศจรรย์ ก็คือ “กล้วยน้ำว้า” ที่ต้องบอกว่าประโยชน์ที่เราได้จากกล้วยน้ำว้านั้นมีมากเกินกว่าที่เราจะคาดถึงเลยทีเดียว 
           ในผลกล้วยน้ำว้าสุก 1 ผลนั้น ให้พลังงานแก่ร่างกายของเราได้ประมาณ 60 กิโลแคลอรี่ ซึ่งในพลังงานที่ได้รับนี้ เป็นพลังงานจากน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้า โดยมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส 
            ส่วนแร่ธาตุและวิตามินที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้าก็มีทั้ง แมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคความดัน มีวิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน มีวิตามินบี 1 บี 2 วิตามินซี และยังมีวิตามินเอมากที่สุดในบรรดากล้วยทั้งหลายอีกด้วย
            ที่พิเศษสุดก็คือ ในกล้วยน้ำว้าจะมีโปรตีนอยู่ด้วย โดยมีทั้งกรดอมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และเพราะว่ามีสารอาหารที่เป็นประโยชน์แบบนี้เอง คุณพ่อคุณแม่จึงให้เด็กๆ กินกล้วยน้ำว้าบดเป็นอาหารอย่างแรกๆ ก่อนที่จะลองให้กินอาหารชนิดอื่นเมื่อโตขึ้น 


       

     สำหรับสรรพคุณทางยาของกล้วยน้ำว้า ในผลดิบนั้นใช้รักษาอาการท้องเดิน-ท้องเสีย โดยใช้ประโยชน์จากสารแทนนินที่มีอยู่ในผลดิบของกล้วยน้ำว้า วิธีบริโภคก็คือให้กินทั้งเปลือก หรือจะหั่นเป็นแว่นๆ แล้วตากแห้ง นำมาบดชงผสมกับน้ำร้อน หรือบดแล้วปั้นเป็นเม็ดกินก็ได้ 
             และผลดิบของกล้วยน้ำว้าก็ยังสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ด้วย โดยใช้กล้วยน้ำว้าดิบนำมาปอกเปลือก ฝานเอาแต่เนื้อเป็นแผ่นบางๆ ตากแดดจนแห้งกรอบแล้วบดเป็นผงละเอียด ละลายกินกับน้ำข้าวหรือน้ำผึ้งก็ได้ ซึ่งในกล้วยดิบจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุในกระเพาะอาหารให้หลั่งสารมิวซินออกมาเคลือบกระเพาะ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ 
            ส่วนในกล้วยน้ำว้าสุก สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ หรือเจ็บหน้าอกจากการไอแห้งๆ ลดการระคายเคืองในลำคอจากอาการไอ กล้วยน้ำว้าสุกช่วยระงับกลิ่นปากได้ โดยหลังจากตื่นนอนแล้วให้กินกล้วยน้ำว้าทันที แล้วค่อยแปรงฟัน       

           และถ้ากินกล้วยแล้วเหลือเปลือกไว้ ที่เปลือกของกล้วยน้ำว้าก็ยังมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดหนอง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการคันเนื่องจากแมลงกัดต่อยได้ด้วย 

   
 


           สรรพคุณของกล้วยน้ำว้ามีเยอะขนาดนี้ จะกินกล้วยน้ำว้าวันละ 1-2 ผล ก็คงจะได้ประโยชน์กับสุขภาพของเราไม่น้อย 

                     ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ  โชคดีทุกท่าน

ที่มา  แฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook 


สวัสดี ;)




วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การเรียนรู้...ทำให้ฉลาดขึ้น?



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


          ปัจจุบันคนเราติดนิสัยการลอกเลียนคนอื่น ๆ จนเคยชิน  เคยรู้สึกรึไม่ ครับว่าเวลาเราเห็นคนอื่นทำอะไรสำเร็จแล้วเราอยากเป็นอย่างเขา  ประสบความสำเร็จแบบเขามั่ง  โดยทำตามอย่างเขาก็อปปี้วิธีการเขา  สุดท้ายเราก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเขาล่ะ 

          ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น  ก็เพราะวิธีการของเขามันได้สำเร็จไปแล้ว  ผู้ที่ตามมาทีหลังจะไม่สามารถสำเร็จได้เท่าผู้ที่มาก่อนในวิธีการเดียวกัน  เพราะอะไร?... เพราะว่า ขาดความแตกต่าง น่าสนใจไงล่ะครับ 

          จากการที่ผมได้เข้ามาคลุกคลีกับธุรกิจเครือข่าย และงานทางออนไลน์  สิ่งที่ได้คือ  การสังเกตุเห็น  เพื่อน ๆหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ  เพราะว่าขาดการพัฒนาทักษะของตนเองให้เพิ่มขึ้น  เอาแต่ทำตามรูปแบบเดิม ๆ ที่นิยมทำกัน

           เคยมีคนกล่าวไว้ว่า  "  การที่คนเรามีรายได้เท่านี้  ชีวิตเป็นอยู่อย่างนี้  ก็เพราะว่าตัวเรามีทักษะเท่านี้  แต่ถ้าเรามีความต้องการได้รายได้มากขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  เราก็ควรที่จะพัฒนาทักษะของเรา บางอย่างที่เราไม่มีเพิ่มขึ้น  ผมเห็นด้วยกับประโยคนี้เลยครับ ว่ามันเป็นเรื่องจริงในทุกกรณี



           ถ้าไม่เชื่อ  ลองสังเกตุดูครับว่า  เวลาที่คุณได้เข้าร่วมธุรกิจ อะไร ๆ ก็แล้วแต่  ไม่ว่าจะธุรกิจใด ๆ ก็ตาม ของเครือข่าย  สมัยปัจจุบันนี้  ทางต้นสาย หรือว่า หัวหน้าทีมของคุณจะบอก และแนะนำว่า  "ทีมของเรามีเว็บไซต์ให้ได้ใช้กันทุกคน  พวกคุณสามารถนำลิงค์ของเว็บไซต์ไปเริ่มโปรโมทธุรกิจของคุณได้เลย"  

           ผมอยากบอกคุณว่า ในความจริง  สมาชิกเครือข่ายทั้งหมดมีเว็บไซต์ทุกคนเหมือนกัน เป็นเว็บไซต์เดียวกัน  หากมีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ทั้งหมดที่มีอยู่เหมือน ๆ กัน  หน้าตาเว็บไซต์แบบเดียวกัน  อะไรคือความแตกต่างให้ผู้ชมเลือกร่วมธุรกิจกับคุณที่ ไม่ใช่คนอื่น ๆ ล่ะ ครับ

           ความแตกต่าง(Differentiate) ไงล่ะครับ  คือจุดสนใจของผู้ชม  ตัวคุณเองต้องทำตัวแตกต่าง ซึ่งมันเป็นหลักการตลาดที่สำคัญข้อหนึ่งทีเดียว  มันมีหลักคิดง่าย ๆ คือ  ถ้ามีต้นแบบที่ดีอยู่แล้ว  เป็น 100  คุณได้เพิ่ม การเรียนรู้   เสริมจุดแข็ง  เพิ่มความรู้ที่คุณมีเข้าไป จากที่มีอยู่  แน่นอนผลลัพธ์ที่ได้ย่อมต้องได้เกินร้อย

           แต่ถ้าคุณใช้วิธีเลียนแบบ การทำงาน  วิธีการ ของผู้อื่น หรือ ของเดิมที่มีอยู่  โดยไม่ได้เสริมเติมแต่ง  ยังไงคุณก็ทำได้ไม่โดนใจลูกค้า  ก็เปรียบได้กับ ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม ก็  คือ  100  เ่ท่านั้น

           แต่ถ้าคุณขี้เกียจ  โดยใช้วิธีการก็อปปี้ รูปแบบทั้งหมด  แน่นอนแม้ต้นฉบับผิด คุณก็นำมาใช้  โดยไม่มีอะไรใหม่เลย  จะทำให้คุณปิดกั้นจินตนาการ  สมองไม่ได้ถูกฝึกให้คิด คุณจะไม่สามารถสังเคราะห์ความรู้ใหม่ได้เลย  แน่นอนว่ารูปแบบนี้คุึณไม่มีืทางประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม

           คุณก็จะยังไม่ประสบความสำเร็จ !!!

           ในการทำธุรกิจใด ๆ หรือ ธุรกิจเครือข่าย  การศึกษางานของคนอื่น  นั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลก  ตราบใดที่เรานำมาประยุกต์ใช้ และพัฒนาต่อยอดเป็นองค์ความรู้ของเราเอง สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น  มีความน่าสนใจ  มีรูปแบบใหม่  เมื่อนั้นการทำธุรกิจของเราก็จะเจริญรุ่งเรืองประสบควาสำเร็จแน่นอน   ในทางกลับกัน  ถ้าใช้วิธีการก็อปปี้อย่างเดียว เราจะโง่ลง  และไม่พัฒนา  ทำเหมือนเดิม  สมองเราจะฝ่อลง  ถามว่าธุรกิจเราจะมีความน่าสนใจใหม  มีคนอยากทำธุรกิจกับคนที่ชอบเลียนแบบหรือก็อปปี้หรือไม่  แน่นอนครับ ไม่มี  เพราะธุรกิจคุณโอกาสสำเร็จยากเหลือเกิน...


            ลองนำไปคิดกันดู  ต่อยอดกันนะครับ  

            ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ

           

    

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ ทำยังไง? (3)


สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน


          เมื่อเราพัฒนาตนเองจนอยู่ในฐานะผู้นำแล้ว  ลำดับถัดไป ก็ต้องดึงศักภาพการเป็นผู้นำออกมาใช้  ในที่นี้ เราควรเริ่มจาก


          1.  ค้นหา  สิ่งที่เรียกว่า  "จุดแข็ง"  ในตัวคุณเอง  ว่ามีอะไรบ้าง  และต้องพัฒนาให้มีความโดดเด่น  ต้องเน้นย้ำให้สุดยอดที่สุด  เท่าที่จะเป็นไปได้
          2.  ค้นหา  สิ่งที่เรียกว่า   "แรงบันดาลใจ"  ของคุณเอง  เพื่อให้การทำงานหรือ การทำธุรกิจเกิดมีพลังขึ้น  และมีแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนบรรลุเป้าหมาย
          3.  ค้นหา  ธุรกิจ  ที่ตรงกับ จุดแข็ง  หรือไม่ก็ตรงกับ  แรงบันดาลใจ  ของคุณที่สุด   ธุรกิจหรือ บริษัทที่ใช่  มีพื้นฐานดี  มั่นคง  ไม่เลือกฉาบฉวย  เลือกเร็ว  เลือกแบบง่าย ๆ เข้าว่า  
          เพราะนั่นคือ  หลุมพรางธุรกิจที่รวมคนโง่ และคนโลภ ให้มารวมกัน  ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน  และที่สำคัญที่สุด  คุณต้องเป็นฝ่ายเลือกธุรกิจด้วยตัวของคุณเอง  อย่าให้ตัวธุรกิจเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณ  สิ่งนี้ถึงจะตรงกับตัวคุณที่สุด
          4.  ค้นหา  สิ่งที่เรียกว่า  "ปัจจัยหลัก ที่จะทำให้ธุรกิจที่คุณทำประสบความสำเร็จ"  เพื่อ คุณเองจะได้รู้ว่า จะกำหนดเป้าหมาย และวิธีการทำงานอย่างไร  กับธรกิจของคุณ
          5.  ทำการ  สร้าง  กลยุทธ์  การตลาด  ในแบบต่าง ๆ  เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ค้นพบ เรา สนใจธุรกิจของเรา  ให้ชื่นชอบสินค้า  และมั่นใจบริการจากเรา  ให้มากที่สุด
          6.  ข้อนี้  คือ  เรียนรู้เพิ่มเติม และ พัฒนาทักษะ  ในสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในธุรกิจของเรา





           และสุดท้าย  ธุรกิจจะสำเร็จไม่ได้เลย  ถ้าไม่มี   Business Model   และความสามารหาคนเก่งมาร่วมทีม  ไม่ว่าธุรกิจจะดีแค่ใหน  ก็สำเร็จยากถ้าคุณทำงานคนเดียว  การได้ทีมที่เก่งจะสามารถเติมต็มในสิ่งที่ตัวคุณขาด  และเสริมสร้างความแตกต่างที่เหนือความคาดหมาย  เพิ่มความแข็งแกร่ง  ให้กับธุรกิจและตัวคุณ

           สิ่งที่เป็นจริง  คือ ถ้าธุรกิจที่คุณเลือกทำดีจริง  แล้วได้ทีมที่เก่งที่ดี  ในการทำงาน  คุณก็จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วขึ้น ดีกว่าที่คุณได้ทีมไม่ดี  หรือ ไม่มีทีมช่วยอย่างแน่นอน


          สุดท้าย ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ




วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ ทำยังไง? (2)



สวัสดีครับ นักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน



         ขั้นตอนถัดมาเมื่อเรียนรู้กลยุทธของธุรกิจแล้ว  ก็ต้องค้นหาว่าใคร คือ กลุ่มเป้าหมาย  เกี่ยวกับผู้บริโภคที่อยากใช้สินค้าที่ดี  มีคุณภาพ  มีความสะดวก ปลอดภัย  สั่งซื้อได้ง่าย  แล้วต้องค้นหาให้เจอว่า ลูกค้าเป็นคนคนกลุ่มใหน  เช่น กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เนท  กลุ่มที่ชอบเดินตามห้างสรรพสินค้า  กลุ่มเดินตามถนนตลาดนัด  หรือ กลุ่มคนเมือง  กลุ่มคนต่างจังหวัด เป็นต้น



          ที่สำคัญเลยคุณต้องรู้่  ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไร    มีปัญหาอะไร  อยากได้อะไรที่จะทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุข ปลดเปลื้องความทุกข์  หรือ ขยับเข้าไปใกล้ความอยากไ้ด้ อยากมี  อยากเป็นคนประสบความสำเร็จ  ยกตัวอย่างเช่น  อยากผิวดี ผิวขาว  อยากผอม สวย  หุ่นดี  อยากสุขภาพดี  อยากสบาย  อยากรวย  อยากเลิกทำงานประจำ  อยากเป็นอิสระ ฯลฯ

           เพราะว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายมีความอยากได้สิ่งที่เขาต้องการ  เขาก็ต้องทำการค้นหาสิ่งเหล่านั้น หรือ เสาะแสวงหา เครืองมือ  วิธีการ  สินค้า และบริการต่าง ๆ  ที่มีในท้องตลาด  เมื่อเขาสามารถค้นหาิสิ่งที่เขาพบ  หรือ  บุคคลที่สามารถแก้ปัญหา  หรือรู้วิธีการ  มีสินค้า หรือ บริการ  ให้กับเขาได้  เขาก็จะเกิดความเชื่อใจ ไว้ใจ  บุคคลนั้น  และเพิ่มความมั่นใจในการแก้ปัยหาให้เขา  แน่นอนเขาก็สามารถที่จะตัดสินใจซื้อ  หรือใช้สินค้านั้น ๆ   คุณจะได้รู้่ว่า  คุณจะทำธุรกิจกับคนั้น ๆ คุณจะต้องมีสินค้าและบริการในสิ่งที่เขาอยากเห็น  อยากใช้  หรือที่เขาต้องการ  และคุณก้ต้องมอบให้กับเขาได้ด้วย



           ดังนั้น  สิ่งที่คุณควรที่จะพัฒนาตนเอง  ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าก็คือ  การทำตนให้มีคุณค่าให้ตรงกับปัยหาของกลุ่มเป้าหมาย  ให้เข้าใจ  และเข้าถึง  แสดงตนเป็นผู้ให้  ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  เพื่เสริมสร้างความศรัทธา เชื่อถือ
          เมื่อนั้น  คุณจะอยู่ในฐานะผู้กำหนดมาตราฐาน เป็นผู้นำ  ผู้คนจะต่อคิวคุณ เข้ามาหาคุณ  รอรับบริการจากคุณ 

          ในที่นี้ขอยกตัวอย่างในสิ่งที่คุณต้องทำ  ดังนี้

           1. ทำตัวเองให้เป็นที่รู้จัก  มักคุ้น   ทำอย่างไร  คุณอาจต้องเดินทางไปสัมมนาในงาน  หรือ นิทรรศการต่าง ๆ  จัดบูทสินค้า  จัดอีเวนท์  ปาร์ตี้  เพื่อเข้าสังคมและเครือข่าย  หรือ ใช้วิธีสร้างเวบไซต์ในอิินเตอร์เนท  แล้วโปรโมทตนเอง ด้วยวิธึการต่าง ๆ  ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแบบให้เลือกใช้

           2. ทำตัวเองให้มีคุณค่า น่าเชื่อถือ  และนี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องค้นหา  สร้างมันขึ้นมา  และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  โดยให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย  มากที่สุด เช่น  การใช้โปรไฟร์  ในอินเตอเนทเป็นตัวจริงหน้าจริง  ที่อยู่จริงทั้งหมด

           สุดท้าย  สิ่งที่เราไม่ถนัด เราไม่ควรที่่จะเรียนรู้และใช้ในการเริ่มต้น เป็นอันขาด  ซึ่งจะเป็นการเสียเวลามากเกินไป   บางอย่างต้องใช้คนอื่นที่มีความถนัดแทนเรา  เราควรจะทำสิ่งที่เราถนัดและชำนาญ  ส่วนที่เหลือ  ก้ดึงมืออาชีพที่มีความสามารถมาร่วมธุรกิจเพื่อต่อยอดความสำเร็จต่อไป


           ขอให้ทุกท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ



สวัสดีครับ