สวัสดีครับนักธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อทอมได้พบกับ แพร์เดส (Paredes) ซึ่งเขาพูดว่า...
"...ทอม คุณนี่โง่บรรลัย..."
"...หากคุณพยายามจะสอนและช่วยเหลือทุกคนที่พูดว่า เขาต้องการประสบความสำเร็จ คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จ เพราะ การพูดนั้นเป็นสิ่งง่าย!...
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เราควรจะเชื่อใครและช่วยใคร ผู้แทนจำหน่ายพูดว่า ต้องการประสบความสำเร็จเหมือนกันทุกคน
แพร์เดสตอบว่า "...ง่ายนิดเดียวลองทดสอบความตั้งใจของเขาสิ..."
ณ วินาทีนั้น ทอมเห็นสัจธรรม เขาเสียเวลามา 15 ปี พยายามช่วยเหลือคนทุกคนที่บอกว่าต้องการประสบความสำเร็จ เขาไม่เคยเลือกว่าเขาจะช่วยเหลือใคร ความเีพียรพยายามของเขาจึงกระจัดกระจายไปทั่ว ขยันแต่ไม่มีความชัดเจน
ทอมถามว่า "...แล้วจะทดสอบเขาได้อย่างไร..."
แพร์เดสตอบคำถามง่าย ๆ อีกตามเคยว่า "...ให้หนังสือเขาไปอ่าน 1 เล่มแล้วบอกกับผู้แทนจำหน่ายที่ต้องการประสบความสำเร็จผู้นั้นว่าอีก 3 วัน มาเจอกันแล้วมาคุยกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น..."
สมมุติว่าท่านสปอนเซอร์ผมเข้าสู่เครือข่าย ผมบอกอยากเป็นผู้นำ อยากประสบความสำเร็จมีรายได้ 5-6 หลักต่อเดือน ทุก ๆ เดือน ท่านช่วยผมได้มั้ย ท่านเพียงตอบว่า...
"...ได้นี่หนังสือ 100 หน้า ที่จะทำให้คุณเข้าใจธุรกิจเครือข่าย ดียิ่งขึ้น วันนี้วันจันทร์ เรามาพบกันวันพฤหัสฯ แล้วมาหารือกันถึงเนื้อหาในหนังสือ ผมจะได้บอกคุณถึงแนวทางการก่อสร้างธุรกิจ...
พอถึงวันพฤหัสฯ ผมคงโทร หาท่านแล้วพูดว่า
เอ่อ วันจันทร์ผมไม่ได้อ่าน เพราะลูกสอบ วันอังคารต้องสอนหนังสือลูก วันพุธมีงานด่วนต้องอยู่เย็นกลับบ้านดึก พอวันพฤหัสบดีญาติมาเยี่ยมจากต่างจังหวัด ผมเลยยังไ่ม่ได้อ่านเพียงพลิก ๆ ดูเท่านั้นเอง..."
เรามาแปลให้เป็นภาษาธุรกิจในการก่อสร้างผู้นำของท่านให้ชัดเจนดีกว่า
มันหมายความความว่า...หากผมไม่มีความเพียรพยายามหาเวลาที่จะลงมืออ่านหนังสือเล่มนี้ได้ โอกาสในการที่ผมจะหาเวลาลงมือดำเนินงาน ควานหาผู้สนใจธุรกิจ ชักจูงและนำพาผู้มุ่งหวังเขาขเข้าสัมมนา สละเวลาและเงินเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง เรียนรู้ธุรกิจ เดินทางเพื่อขยายตลาดนั้นไม่มีเลย!
มันไม่ได้หมายความว่า...ผมจะไม่มีทางเป็นผู้นำได้ มันเพียงแต่หมายความว่าขณะนี้ วินาทีนี้ วิถีชีวิตผมยังไม่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ มันไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนเลว มันเพียงแค่หมายความว่า ขณะนี้ วินาทีนี้ ผมยังไม่ต้องการเป็นผู้นำจริง ๆ เท่านั้นเอง!
ขณะนี้เราสามารถกำหนดตัวบุคคลจากบุคคลธรรมดา ๆ จากผู้แทนจำหน่ายธรรมดา ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษได้แล้ว บุคคลเพียง 2-3 คนนี้แหละคือ บุคคลที่เราจะสั่งสอน อบรมและช่วยเหลือให้เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่ 3. จำขั้นตอนที่ 3 ได้มั้ย?...ผมทวนให้ฟังอีกครั้ง...
ขั้นตอนที่ 1. ให้คำจำกัดความของผู้นำ...(เรามีอยู่ 3 ข้อ)
ขั้นตอนที่ 2. เราจะหาผู้นำได้จากใหน...(ผู้ที่ผ่านการทดสอบ)
ขั้นตอนที่ 3. แล้วเราจะสอนอะไรให้่กับผู้นำของเรา?
อันนี้เป็นคำถามที่สำคัญมาก...
ผู้นำรู้อะไรที่ผู้แทนจำหน่ายธรรมดาไม่รู้?
ขณะที่ท่านได้สอนผู้แทนจำหน่ายของท่าน ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายที่ดีแล้วหมายความว่าท่า่นได้สอนเขา
* ทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
* ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวบริษัท
* ให้จงรักภักดีต่อองค์กร
* ให้สร้างเครือข่าย
* ให้มองโลกในแง่ดี
* ใ้ห้ควานหาสมาชิกอย่างมืออาชีพ
* ให้แนะนำผลิตภัณฑ์ และขายปลีกตลอดเวลา
* ให้ทำงานให้เป็นระบบ ให้เลียนแบบได้
* ให้ถ่ายสำเนาตนเอง...ฯลฯ
ท่า่นสอนสิ่งที่สำคัญเหล่านี้ แก่ผู้แทนจำหน่ายของท่านหมดแล้ว ท่านมีผู้แทนจำหน่ายที่ดีในเครือข่ายจำนวนมากแต่ท่านไม่มีผู้นำ
ลองคิดดูว่า...ท่านกำลังจะสอนผู้แทนจำหน่ายของท่านให้เป็นผู้นำที่ดี ท่านจะสอนอะไร...?
** หากท่านยังไม่เข้ารับการอบรม!!!**
ขอให้ทุท่านโชคดี และประสบความสำเร็จ
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น