วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แนวโน้มการหารายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป

สวัสดีครับ.

               
                โลกเรานั้นเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ทุกเวลาทุกๆนาที ความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดของมนุษย์ดูจะผลักดันให้มีการปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นทุกขณะ ปัจจุบันการหมุนโทรศัพท์ ดูจะเป็นการไม่สะดวกสบาย ต้องมีรีโมทบังคับได้จากทุกหนทุกแห่ง  เครื่องบินโบอิ้งบินลัดฟ้าไปยุโรป  ภายใน 8 ชั่วโมง  ทำท่าจะไม่เร็วพอสำหรับนักธุรกิจข้ามชาติเสียแล้ว

                 รสนิยมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับความเจริญทางเทคโนโลยี่  กระดานดำกลายเป็นกระดานเขียว  กระดานเขียวกลายเป็นกระดานขาว โทรศัพท์ซึ่งเคยมีสีดำกลับอ่อนลง โทรทัศน์ที่เคยมีสีอ่่อนกับดำขึ้น  เครื่องเสียงที่เคยนิยมขนาดใหญ่กลับเล็กลง ฯลฯ

                 อยู่ๆ ... ประเทศไทย  ที่เคยเป็นสวรรค์สำหรับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งปฏิเสธเพิกเฉย ไม่รับรู้กฎเกณฑ์และหลักเศรษฐศาสตร์  ด้วยความเชื่อมั่นฮึกเหิม และละเลยปรากฎการฟองสบู่   ต่างได้รับบทเรียนราคาแพงที่เจ็บแสบ

                  หลายๆ คนพูดว่า " ถ้ารู้อย่างนี้ " ดูจะเป็นคำพูดที่ได้ยินกันมาก  แน่นอนที่สุด ถ้าเราสามารถหยั่งรู้สถานการณ์ล่วงหน้าเราจะสามารถป้องกันภัยและ ความเสียหาย ได้อย่างมหาศาลรวมทั้งทำรายได้อย่างมหึมา

                 การเปลี่ยนแปลงที่จะกล่าวถึงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ  แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านความนึกคิดอย่างถอนรากถอนโคน   การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในอดีตเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการขนส่ง (รถยนต์, รถไฟฟ้า และท่าอากาศยาน) และอุตสาหกรรมการสื่อสาร (โทรศัพท์, โทรสาร ) การเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไป จะเกิดกับอุตสาหกรรมการว่าจ้าง, อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ และการตลาดระบบอินเตอร์เนต... ผู้ที่เข้าใจถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง และอยู่ในตำแหน่งอันเหมาะสม  ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่ถูกต้อง  จะสามารถได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล

      สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง

                  1. โลกปัจจุบันได้มีการย้ายความสำคัญของพื้นฐานการผลิต มาสู่พื้นฐานการจัีดจำหน่าย และพื้นฐานข้ัอมูล เราไม่สามารถยอมรับข้อมูลที่ล่าช้า  หรือการบริการที่ไม่้รวดเร็วได้อีกต่อไป

                  2.  ยุคโลกาภิวัฒน์ ทำให้เราอยู่ในโลกไร้พรมแดน บริษัททุกบริษัทจำเป็นต้องมีขีดความสามารถที่จะแข่งขันในระดับนานาชาติ

                  3.  บริษัทต่างๆทั่วโลก มีความจำเป็นต้องปรับองค์กรของตนให้มีขนาดเล็กลง  เพื่อดำรงความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก

                  4.  การลดขนาดขององค์กร ทำให้เกิดการเลิกจ้างงานอย่างมโหฬาร โดยเปลี่ยนการว่าจ้างลูกจ้างประจำเป็นการว่าจ้างบุคคลแบบอิสระ หรือการจ้างช่วงเพื่อหลีกเลี่ยงรายจ่ายประจำ

                  5.  แนวความคิดของพลเมืองโลกสมัยก่อน ในการที่จะทำงานกับบริษัทที่มั่นคงตลอดชีวิต  เพื่อการมีฐานะการเงิน และความเป็นอยู่ที่มั่นคง ภายหลังเกษียรอายุ ดูจะเป็นความหวัที่เลือนรางทุกที

                  6.  ด้วยความที่ไม่แน่นอนของลูกจ้าง ประชากรโลกจึงหันมานิยมทำธุรกิจของตัวเอง  ซึ่งเขาสามารถทำได้สะดวกสบายจากบ้านของเขาเอง  ธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจในครัวเรือนมีอัตราการขยายจาก  450  พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น  750  พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 1995  แต่ ธุรกิจขนาดเล็กที่ยกเลิกการทำงาน ภายในระยะ 5 ปี มีมากถึง  90 %
     
                   7.  บุคคลในยุคเบบี้บูม ( 42 -60ปี ) กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพอย่างหนัก ประชากรโลกกำลังใช้เงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อค้นคว้าวิธีป้องกัน  พฤติกรรมการบริโภคของคนหนุ่มสาว ซึ่งมีกำลังซื้อสูง ถึง 2/3  ของกำลังซื้อทั้งหมดของโลก หันมาสนใจสินค้าบำรุงสุขภาพ ลดริ้วรอย ความชราเสื่อมโทรม  สินค้าที่ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และยืดอายุ ในราคาที่สามารถหาซื้อได้


     กาีรวางตัวเพื่อพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง

              นอกจากการเป็นลูกจ้างแล้ว ยังมีอีก 2 วิธี  ในการที่บุคคลธรรมดาจะ แสวงหารายได้ คือ

                    1. เริ่มธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง โดยมีการขายสินค้าหรือบริการ

                    2. ลงทุนโดยการลงเวลาหรือเงิน หรือทั้งสองอย่าง โดยใข้เครื่องมือที่ให้ผลตอบแทนสูง

              ซึ่งในปัจจุบัน  มีพาหนะทางการเงินที่เป็นคานงัดมากมาย แต่ต้องมีเงินลงทุนและอัตราเสี่ยงค่อนข้างสูง เช่นสต็อก ระบบเฟรนไชส์ และการว่าจ้างคนอื่นแทนตัวคุณเอง... ฯลฯ

              เรามาพูดถึงพาหนะทางการเงินเฉพาะที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังต่อไปนี้

                    1. ไม่มีอัตราเสี่ยงการลงทุน

                    2. รายได้เริ่มจากรายรับแนวตรงและกลายเป็นระบบคานงัด โดยมีความเป็นไปได้ในการที่จะทำรายได้มากว่า 6 หลักต่อเดือน ภายในระยะเวลา 2 ปี

                    3. บุคคลธรรมดาสามารถเริ่มต้นได้ทันที โดยใช้เวลาการทำงาน  5- 10 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ และไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำ

                    4. ไม่มีการขายหน้าร้าน กักเก็บสินค้า ว่าจ้างพนักงานและไม่ต้องจัดทำระบบการเงินการบัญชี

                    5.  เป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม และทวีความนิยมมากขึ้นในอนาคต 

                    6.  มีโอกาสในการทำงาน และได้รับการสนับสนุนจากคนเป็นพันๆ คนที่กำลังได้รับรายได้จากการทำเงินในลักษณะคานงัด   

คลื่นลูกที่  3  

    การกระจายสินค้าระบบเครือข่าย

                   การกระจายสินค้าระบบเครือข่ายเป็นสิ่งใหม่ในทศวรรษที่ 1960 เช่นเดียวกับที่ระบบเฟรนไชส์  เป็นสิ่งใหม่ในทศวรรษที่ 1940  แรกเริ่มระบบเฟรนไชส์ ถูกขนานนามว่าเป็น " ระบบปิรามิดที่ผิดจรรยาบรรณ "  ระบบเครือข่ายก็เช่นเดียวกัน ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบ และยอมรับ ว่าเป็นธุรกิจที่ถูกจรรยาบรรณ " การขายตรง " คือ การขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรงจากบริษัท และผลกำไรถุูกนำส่งผู้แนะนำสินค้า  บริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้ ได้ขจัดข้อเสียทั้งหมดในการกระจายสินค้าแบบดั้งเดิม เช่น ยกเลิกการจัดเก็บสต็อกสินค้า ยกเลิกค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานขาย และประหยัดการลงทุน เมื่อมีการลดขนาดของธุรกิจ

                    ผู้ก่อตั้งธุรกิจเหล่านี้ก็มีเวลาเหลือพอที่จะสังคมซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและแนะนำการดำเนินธุรกิจซึ่งกันและกัน  การดำเ้นินธุรกิจกระจายสินค้า ระบบเครือข่ายในศตวรรษที่ 21  เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจชนิดเดียวที่ตอบสนองความต้องการ 6 ข้อ  ที่ได้กล่าวมาข้างต้น

                    การกระจายสินค้าระบบเครือข่าย ขณะนี้มีอายุ ได้ 50 กว่าปี  โดยผ่านการเปลี่ยนแปลงมาถึง    3  ระบบ  หรือที่เราเรียกว่า  คลื่นลูกที่ 3  โดยเริ่มจากระบบปิรามิดที่ผิดกฎหมาย  สู่การดำเนินธุรกิจซื้อตรง แต่ปราศจากกฎเกณฑ์ และกติกา และลงท้ายด้วยการเป็นธุรกิจที่ซื่อสัตย์สุจริต  มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการดำเนินงานสู่ความมั่งคั่ง

                    หลักฐานการเจริญเติบโตของธุรกิจนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป วิชาที่เกี่ยวกับการแนะนำธุรกิจนี้มีสอนอยู่ในหลายๆสถาบัน  ภายใน  2- 3  ปีข้างหน้านี้ การขายสินค้า 50 % ในสหรัฐจะถูกจำหน่ายด้วยระบบเครือข่าย 


                   " หากท่าน คือ บุคคลที่พร้อมทำงานหนัก  เพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่นคงทางฐานะทางการเงินโดยไม่มีอัตราเสี่ยงในการลงทุน  คลื่นลูกที่ 3 ของระบบเครือข่าย คือทางเลือกที่่ดีที่สุดของท่าน "


สวัสดี                   



         

       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น